สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เตรียมเสนอ กบน.ใช้จังหวะน้ำมันตลาดโลกขาลง รีดเงินสะสมเข้ากองทุนน้ำมัน หวังตุนเงินไว้รับมือกรณีวิกฤตโดยไม่เกินเพดาน 4 หมื่นล้าฯ เล็งกำหนดเพดานตรึงดีเซลไว้ไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผอ.สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกน.เตรียมเสนอแนวทางการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาฯ โดยการนำเสนอแผนการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล ในช่วงราคาขาลง เพื่อสะสมเงินไว้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันช่วงตลาดโลกขาขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาดีเซลที่มีแนวคิดจะกำหนดกรอบราคาดีเซล ดูแลไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร จากอดีตที่กำหนดตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ส่วนกรอบการจัดเก็บเงินสะสม จะไม่เกินเพดาน 40,000 ล้านบาท และหากเกิดวิกฤตด้านราคาก็สามารถกู้ได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
"ช่วงนี้ราคาดีเซลยังต่ำมากหากมีช่วงว่างในการเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนฯไว้ก็จะเป็นเรื่องดี และยังมีแนวคิดว่า จะดูแลราคาดีเซล ไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร ต่ำกว่าอดีตที่ดูแลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะเป็นไปได้ไหม ซึ่งขณะนี้เงินกองทุนฯเหลือเงินสุทธิ 30,718 ล้านบาท" นายวิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2562 ได้กำหนดลดการชดเชยน้ำมันที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ 3 ปี หลังกม.บังคับใช้แล้วและสามารถต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี จากนั้นจะไม่มีการชดเชยราคาน้ำมันที่ผสมเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีก เพื่อพัฒนาต้นทุนให้มีศักยภาพการแข่งขันโดยรัฐไม่ต้องอุดหนุน ดังนั้น สกนช.จะเสนอ กบน. ลดการชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพลงในอัตรา 50% ตั้งแต่ 24 ก.ย. 64 และยกเลิกชดเชยหรือ ชดเชยเป็น 0 ตั้งแต่ 24 ก.ย.65 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไหลออกลดลง และหยุดไหลออกในที่สุด
ทั้งนี้ แผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี63–67 ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม.เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 ทาง สนกช. นำเสนอดังนี้ 1. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำการแยกบัญชีตามกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ กลุ่มน้ำมันดีเซล กลุ่มน้ำมันเบนซิน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดหนุนราคาข้ามกลุ่มเชื้อเพลิง
2. มีกรอบความต่างของราคาระหว่างราคาเชื้อเพลิงหลักของกลุ่มน้ำมันดีเซล และกลุ่มน้ำมันเบนซินในกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับความต่างของราคาในสถานการณ์ราคาปกติ อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤตที่คาดว่าจะยาวนานจนส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้เงินกองทุนน้ำมันขาดสภาพคล่องให้พิจารณาอุดหนุนราคาดีเซลชนิดเดียว
3.ชดเชยราคาน้ำมันเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
4. เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่ราคาลง เพื่อสะสมเงินให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีสภาพคล่อง
5. ทบทวนแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผอ.สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกน.เตรียมเสนอแนวทางการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาฯ โดยการนำเสนอแผนการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล ในช่วงราคาขาลง เพื่อสะสมเงินไว้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันช่วงตลาดโลกขาขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาดีเซลที่มีแนวคิดจะกำหนดกรอบราคาดีเซล ดูแลไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร จากอดีตที่กำหนดตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ส่วนกรอบการจัดเก็บเงินสะสม จะไม่เกินเพดาน 40,000 ล้านบาท และหากเกิดวิกฤตด้านราคาก็สามารถกู้ได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
"ช่วงนี้ราคาดีเซลยังต่ำมากหากมีช่วงว่างในการเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนฯไว้ก็จะเป็นเรื่องดี และยังมีแนวคิดว่า จะดูแลราคาดีเซล ไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร ต่ำกว่าอดีตที่ดูแลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะเป็นไปได้ไหม ซึ่งขณะนี้เงินกองทุนฯเหลือเงินสุทธิ 30,718 ล้านบาท" นายวิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2562 ได้กำหนดลดการชดเชยน้ำมันที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ 3 ปี หลังกม.บังคับใช้แล้วและสามารถต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี จากนั้นจะไม่มีการชดเชยราคาน้ำมันที่ผสมเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีก เพื่อพัฒนาต้นทุนให้มีศักยภาพการแข่งขันโดยรัฐไม่ต้องอุดหนุน ดังนั้น สกนช.จะเสนอ กบน. ลดการชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพลงในอัตรา 50% ตั้งแต่ 24 ก.ย. 64 และยกเลิกชดเชยหรือ ชดเชยเป็น 0 ตั้งแต่ 24 ก.ย.65 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไหลออกลดลง และหยุดไหลออกในที่สุด
ทั้งนี้ แผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี63–67 ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม.เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 ทาง สนกช. นำเสนอดังนี้ 1. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำการแยกบัญชีตามกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ กลุ่มน้ำมันดีเซล กลุ่มน้ำมันเบนซิน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดหนุนราคาข้ามกลุ่มเชื้อเพลิง
2. มีกรอบความต่างของราคาระหว่างราคาเชื้อเพลิงหลักของกลุ่มน้ำมันดีเซล และกลุ่มน้ำมันเบนซินในกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับความต่างของราคาในสถานการณ์ราคาปกติ อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤตที่คาดว่าจะยาวนานจนส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้เงินกองทุนน้ำมันขาดสภาพคล่องให้พิจารณาอุดหนุนราคาดีเซลชนิดเดียว
3.ชดเชยราคาน้ำมันเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
4. เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่ราคาลง เพื่อสะสมเงินให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีสภาพคล่อง
5. ทบทวนแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง
