xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์! 28 ต.ค.นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ เซ็นสัญญา 2.3 รถไฟไทย-จีน 5.06 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นายก” ประธานดีเดย์ 28 ต.ค.ลงนามสัญญา 2.3 รถไฟไทย-จีน ซื้อระบบ 5.06 หมื่นล้าน “ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งแก้2 โจทย์ ชงคชก.และสผ.ปลดล็อก EIA ช่วงบ้านภาชี-โคราช และปรับแบบสถานีอยุธยา ขณะที่มอบ “ชยธรรม์” เร่งตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาระบบราง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบรับเป็นประธานในการลงนามสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในวันที่ 28 ต.ค. 2563

ทั้งนี้ รถไฟความเร็งสูงไทย-จีน ยังมีโจทย์ที่ต้องดำเนินการ 2 เรื่อง คือ การปรับแบบสถานีอยุธยาเพื่อไม่ให้บดบังโบราณสถาน ล่าสุดทราบว่ากรมการขนส่งทางราง (ขร.) โดยนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้หารือกับอธิบดีกรมศิลปากรถึงแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันเรียบร้อยแล้ว และเร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมา) เสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า

และมอบหมายให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เร่งรัดการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง โดยให้เร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เนื่องจากเป็นสถาบันสำคัญที่เป็นศูนย์ด้านบุคลากรและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านระบบราง โดยให้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อเปิดรับนักศึกษาสายอาชีวศึกษาเข้ามายังสถาบันต่อไป

สำหรับสัญญา 2.3 รถไฟไทย-จีนนั้น เป็นสัญญาการจ้างรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นตัวแทนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีประสบการณ์ตรงด้านการพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่ได้รับการรับรองคุณภาพและประสิทธิภาพจาก National Development and Reform Commission แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CHINA RAILWAY INTERNATIONAL CO., LTD. และ CHINA RAILWAY DESIGN CORPORATION) มาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ติดตั้งงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ระบบรถไฟความเร็วสูง จัดหาขบวนรถไฟ และฝึกอบรมบุคลากร ชื่อสัญญาภาษาอังกฤษว่า The Trackwork, Electrical and Mechanical (E&M) System, EMU, and Training Contract
โดยจะมีงาน 3 ช่วง คือ 1. ออกแบบระบบ และออกแบบระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนออกแบบขบวนรถไฟความเร็วสูง 2. งานฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการเดินรถและซ่อมบำรุง และการถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. งานก่อสร้าง ติดตั้งงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกลระบบ ระยะเวลา 64 เดือน

ทั้งนี้ ครม.เมื่อวันที่ 29 ก.ค. มีมติเห็นชอบปรับกรอบวงเงินสัญญา 2.3 โครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา จากวงเงินเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 ที่ 38,558.38 ล้านบาท เป็น 50,633.50 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 12,075.12 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบกรอบวงเงินรวมของโครงการรวมที่ 179,412.21 ล้านบาท

สำหรับวงเงินที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย 1. การย้ายขอบเขตงานของงานระบบรถไฟความเร็วสูงที่ซ้อนทับอยู่ในขอบเขตของงานโยธาเป็นเงิน 7,032.78 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์บำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Maintenance) สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับขบวนรถไฟฟ้า (EMU Facility) โรงเชื่อมรางและกองเก็บ (Track Welding and Storage Base) และโรงกองเก็บราง (Long Track Storage Base) จึงได้ย้ายขอบเขตงานจากงานโยธาไปไว้ยังงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลฯ

2. การเปลี่ยนรุ่นขบวนรถ EMU จากรุ่น CRG2G (Hexie Hao) เป็น CR Series (Fuxing Hao) ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ดีกว่า เป็นเงินเพิ่มขึ้น 2,530.38 ล้านบาท

3. การปรับเปลี่ยนทางแบบใช้หินโรยทาง (Ballasted Track) เป็นทางแบบไม่ใช้หินโรยทาง (Ballastless Track) ในทางวิ่งช่วงสถานีบางซื่อ-สถานีดอนเมือง ในสถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง สถานีนครราชสีมา และภายในอุโมงค์เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุง ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในอนาคต อีกทั้งยังรักษาภาพลักษณ์และทัศนียภาพตลอดจนมลภาวะต่างๆ ที่จะเกิดจากการซ่อมบำรุงทางในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองและภายในอุโมงค์ คิดเป็นค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนโครงสร้างทาง เป็นเงินทั้งสิ้น 2,227.57 ล้านบาท

4. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่ารับประกันผลงานจากความชำรุดบกพร่องจาก 1 ปี เป็น 2 ปี ตามระเบียบฯ ค่าดำเนินการต่างๆ และอื่นๆ เป็นจำนวนเงิน 284.39 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น