xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับมือ ธ.ก.ส.เร่งเพิ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์ใช้บล็อกเชนตรวจสอบย้อนกลับ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” ลงนาม MOU ธ.ก.ส.ผนึกกำลังผลักดันสินค้าเกษตรอินทรีย์ ใช้ “บล็อกเชน” ตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งเป้าเพิ่ม 1,000 รายในปี 64 หลังนำร่องข้าวอินทรีย์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เตรียมจับมือห้างโปรโมตเครื่องหมาย TraceThai สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค พร้อมหารือสถานทูต ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เปิดตลาดกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในต่างประเทศ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง สนค.กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการสินค้าอินทรีย์ เข้ามาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ผ่าน TraceThai.com โดยตั้งเป้าเพิ่มให้ได้ 1,000 ราย ภายในปี 2564

สำหรับแนวทางในการทำงาน สนค.กับ ธ.ก.ส.จะลงพื้นที่ไปตามหาเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อดึงให้เข้ามาใช้ระบบบล็อกเชนในการตรวจสอบย้อนกลับ โดย ธ.ก.ส.มีเครือข่าย มีฐานลูกค้าประมาณ 5 หมื่นราย ก็จะเข้าไปคัดเลือก เน้นกลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ที่ทำอินทรีย์ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ หรือกลุ่มที่ทำอินทรีย์ แต่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. แต่ ธ.ก.ส.รู้จัก หรือกลุ่มที่ทำอินทรีย์และได้ทำการรับรองตัวเอง ซึ่งมั่นใจว่าจะเพิ่มจำนวนได้เพิ่มขึ้น และได้รับการตอบรับจากเกษตรกร เพราะระบบไม่ยาก เกษตรกรสามารถเรียนรู้ได้

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำระบบบล็อกเชนมาใช้แล้ว โดยนำร่องที่สินค้าข้าวอินทรีย์ มีเกษตรกรเข้าร่วม 7 ราย มีสินค้าที่ได้นำตราสัญลักษณ์ TraceThai ไปติดที่ตัวสินค้าแล้ว ซึ่งผลการทดลองตลาดปรากฏว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าสินค้ามีที่มาที่ไป มีข้อมูลปลูกที่ไหน ใครผลิต ใครรับรองมาตรฐาน โดยสแกนคิวอาร์โค้ด หรือนำเลขล็อตการผลิตบนฉลากไปตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ TraceThai.com ก็รู้เส้นทางของสินค้ารายการนั้นได้ทันที

ทั้งนี้ การนำระบบบล็อกเชนมาใช้ตรวจสอบย้อนกลับ นอกจากเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างการยอมรับให้กับสินค้าเกษตรของไทยแล้ว ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดปัจจุบันที่ให้ความสำคัญต่ออาหารปลอดภัย หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการมีระบบตรวจสอบย้อนกลับสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น

สำหรับการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง TraceThai สนค.จะร่วมมือกับโมเดิร์นเทรด เช่น เทสโก้ โลตัส วิลล่ามาร์เก็ต และซีพีออลล์ ในการเปิดบูทจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบสินค้า และซื้อสินค้า ส่วนในต่างประเทศ จะหารือกับสถานทูต โดยเน้นประเทศที่เป็นตลาดนำเข้าสินค้าอินทรีย์ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เพื่อชี้แจงระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และหารือทางออนไลน์กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เพื่อนำเสนอสินค้า ดูระบบตรวจสอบ และเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า


กำลังโหลดความคิดเห็น