“จุรินทร์” เป็นประธานการลงนาม MOU ร่วม 4 กระทรวง จัดทำมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในการผลิตอาหาร ช่วงการจัดงานแสดงสินค้า THAIFEX เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยต่อชาวโลก เผยการจัดงานปีนี้ ใช้ระบบไฮบริด มีทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ที่จัดแสดงสินค้าเสมือนจริง ชมได้ เจรจาธุรกิจได้ คาดเป็นต้นแบบการจัดงานให้โลก ประเมินยอดขายทะลุ 6,000 ล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร 2563 THAIFEX - ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออก ร่วมกับ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยสู่สายตาชาวโลกว่าเป็นสินค้าอาหารที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดเชื้อโควิด-19
“เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ระบบตรวจสอบย้อนกลับอาหารปลอดภัย จึงมีความสำคัญ และเป็นเรื่องใหญ่ทางการตลาดของอาหารของทุกประเทศ รวมทั้งไทย ซึ่งได้มอบนโยบายให้ไปดำเนินการให้เกิดความร่วมมือในการกำกับดูแลการผลิตอาหารให้เดินหน้าไปสู่อาหารปลอดภัยระหว่าง 4 กระทรวงหลัก แล้วออกหนังสือรับรองกระบวนการผลิตที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อให้ผู้ผลิตนำไปแสดงกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เพื่อสร้างความมั่นใจในอาหารไทยว่าปลอดโควิด-19 ซึ่งจะยิ่งช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าอาหารไทยได้เพิ่มขึ้น”
นายจุรินทร์กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้เป็นการจัดงานที่พิเศษและถือเป็นปีแรกที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้เป็นแบบไฮบริด เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ เป็นการผสมผสานการจัดงานระหว่างออฟไลน์ และเทคโนโลยีออนไลน์ โดยการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง หรือ Virtual Trade Show ที่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ จะสามารถเข้าชมงาน ชมสินค้า และเจรจาธุรกิจกับผู้จัดแสดงสินค้าได้ และจะกลายเป็นงานต้นแบบการจัดงานรูปแบบใหม่ของโลกต่อไป
“การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการส่งออก ตั้งแต่สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้ฟื้นตัวกลับมาได้ โดยคาดว่าจะสร้างรายได้มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประเมินไว้ แต่มองว่าน่าจะถึง 7,000 ล้านบาท” นายจุรินทร์กล่าว