ศาลนัดไต่สวน 14 ต.ค.นี้ ประมูลรถไฟฟ้าสีส้มไม่เป็นธรรม ลุ้น “บีทีเอส” จะได้รับคุ้มครองหรือไม่ “ผู้ว่าฯ รฟม.” เผยเน้นเทคนิคอุโมงค์และก่อสร้างใต้ดินขั้นสูง เหตุผ่าน พท.อ่อนไหว ยันไม่มีคะแนนพิเศษสำหรับผลงานหรือประสบการณ์ในประเทศ
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะนี้ยังเป็นไปตามกรอบเวลา กรณีที่มีเอกชนยื่นฟ้องศาลปกครองนั้น หากยังไม่มีคำสั่งศาลให้หยุด รฟม.ยังคงดำเนินการตามกระบวนการ โดย รฟม.พร้อมชี้แจงในประเด็นต่างๆ ยืนยันว่าดำเนินการตามกฎหมายหลักที่เกี่ยวข้องและพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 และประกาศของคณะกรรมการ PPP และเงื่อนไขที่กำหนด ในเอกสารการคัดเลือกเอกชน หรือ REQUEST FOR PROPOSAL (RFP) ข้อ 7.1 ที่สามารถออกเอกสารเพิ่มเติมได้ ขณะที่มีการขยายเวลาในการยื่นเอกสารออกไปอีก 45 วัน
ส่วนกรณีการกำหนดคุณสมบัติด้านเทคนิคเรื่องขุดอุโมงค์นั้น ยืนยันว่าเป็นเทคนิคการก่อสร้างซึ่งเอกชนที่มีประสบการณ์ในการขุดอุโมงค์ และมีเทคนิคในการก่อสร้างสามารถยื่นได้ทุกราย ซึ่งผู้ซื้อซองหลายรายมีประสบการณ์เรื่องอุโมงค์ ทั้ง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, บมจ. ช.การช่าง, บ.ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด และทีโออาร์กำหนดว่า สามารถเป็นผู้รับเหมาช่วงได้ ไม่ต้องซื้อซองได้ ซึ่งยังมี บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง ที่มีประสบการณ์ทำอุโมงค์
“ไม่มีเงื่อนไขว่าต้องมีประสบการณ์หรือผลงานเป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำแต่อย่างใด โดยใน RFP เขียนว่า ผู้รับเหมาต้องมีประสบการณ์อุโมงค์รถไฟฟ้าเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 5 เมตร และไม่ได้กำหนดว่า กรณีมีผลงานในประเทศไทย แล้วจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษด้วย”
ส่วนสาเหตุที่ต้องนำคะแนนเทคนิคมาพิจารณาด้วย เพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มมีโครงสร้างเป็นอุโมงค์มากกว่า 2 ใน 3 ดังนั้นจะต้องมีมาตรการความปลอดภัยทั้งในการก่อสร้างและการเดินรถ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ โดยในข้อเสนอด้านเทคนิคจะมี 3 เรื่อง คือ งานโยธา งานติดตั้งระบบ และการเดินรถ
ทั้งนี้ แนวเส้นทางอยู่ใต้ดินและลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านพื้นที่อ่อนไหว อาคารเก่า พื้นที่อนุรักษ์ จึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องหาวิธีการและเทคโนโลยีในการก่อสร้างที่ดีที่สุด เช่น กรณีผ่านพื้นที่อ่อนไหว จะใช้เทคนิควิธีพิเศษอย่างไร มีการดูแลความปลอดภัยในการเจาะใต้แม่น้ำอย่างไร หากมีปัญหา เช่น หัวเจาะติดอยู่ใต้แม่น้ำ จะมีวิธีการที่จะไปกู้หัวเจาะอย่างไร ส่วนการเดินรถนั้นจะต้องออกแบบระบบ มีอุปกรณ์และมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น กรณีเกิดไฟไหม้ จะอพยพผู้โดยสารออกจากระบบที่อยู่ใต้ดินอย่างไร เป็นต้น
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) กล่าวว่า จากที่บริษัท ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ และขอให้กลับไปใช้รูปแบบเดิมนั้น วันที่ 14 ต.ค.นี้ศาลจะนัดไต่สวนนัดแรก ซึ่งตามปกติศาลจะมีคำสั่งหลังจากไต่สวน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งก่อนที่จะยื่นซองในวันที่ 9 พ.ย. 63 ตามที่ รฟม.กำหนดใหม่ หากศาลสั่งคุ้มครองก็จะต้องหยุดกระบวนการประมูล
“เรายืนยันว่าการเปลี่ยนกติกา นำคะแนนเทคนิคมารวมกับคะแนนราคานั้นทำให้เรามีโอกาสเสียเปรียบและยังเป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขหลังจากปิดขายซองไปแล้ว โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติอุโมงค์รถไฟฟ้าขนาดไม่ต่ำกว่า 5 เมตรนั้น ใน TOR เขียนว่า “ผลงานและประสบการณ์ในประเทศไทยจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ” นายสุรพงษ์กล่าว