ผู้จัดการรายวัน 360 - บิ๊กซีประเมินโควิดกระทบอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี จับตาผลกระทบจากปัญหาสหรัฐฯ กับจีน เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องงบกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี งัดแคมเปญเด็ดหั่นราคาสินค้า กระตุ้นการจับจ่าย ซุ่มโมเดลใหม่บิ๊กซีดีโป้
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือบีเจซี กล่าวว่า จากผลกระทบของโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทยไปอีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ คงยังไม่ฟื้นตัวเร็วเกินไปนักแม้ว่าจะมีการกระตุ้นในทุกทางทั้งเปิดประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อีกทั้งความขัดแย้งทางด้านการค้าระหว่างสองมหาอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ล้วนมีผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งนั้น ดังนั้นธุรกิจต้องปรับตัว
อย่างไรก็ตาม บีเจซีและบิ๊กซียังพร้อมมีแผนลงทุนต่อเนื่องอย่างระมัดระวัง โดยยังคงลงทุนเฉลี่ย 7,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งการขยายสาขา การทำตลาด การผลิตอื่นๆ ในไทยและนอกเวียดนาม ซึ่งในต่างประเทศก็ลงทุนต่อเนื่องเช่นกัน เช่นในปีหน้า (2564) จะเปิดไฮเปอร์มาร์เกตที่ลาว จากขณะนี้มีมินิบิ๊กซีเปิดแล้ว 45 สาขา ส่วนที่เวียดนามยังไม่ได้ใช้ชื่อบิ๊กซียังเป็นเมกามาร์เก็ตอยู่
นายอัศวินกล่าวต่อว่า สำหรับตลาดค้าปลีกในไทย เราก็มีการศึกษาแพลตฟอร์มใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อรองรับกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่การบริโภค พฤติกรรมการจับจ่าย ไลฟ์สไตล์ และการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน บิ๊กซีจะใช้กลยุทธ์เดินหน้าพัฒนาโมเดลการขายรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก โดยการปรับตัวรับมือกับภาวะการแข่งขันไม่หยุดนิ่ง เพราะปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคมีการแข่งขันอย่างรุนแรง ทั้งด้านความหลากหลายของสินค้าและบริการ ยังรวมไปถึงแคมเปญและโปรโมชันเน้นการผลิตสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ และหาช่องทางจำหน่ายให้หลากหลายเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นและรักษาฐานลูกค้าเดิม จุดแข็งของบิ๊กซี คือมีสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า และวางแผนเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
ล่าสุดคือ การทดลองรูปแบบค้าส่ง ด้วยการเปิดบิ๊กซีดีโป้ เป็นรูปแบบที่เจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อไปจำหน่ายต่อหรือกลุ่มค้าส่ง โดยทดลองเปิดแล้วมี 5 สาขา
ซึ่งอยู่ติดกับมินิบิ๊กซีทั้งหมด คือ ประทาย, กุฉินารายณ์, ตาคลี, ประโคนชัย และปักธงชัย จากก่อนหน้านี้ก็มีโมเดลใหม่ที่เรียกว่า บิ๊กซีฟูดเพลซ ที่ทดลองมาระยะหนึ่งแล้วโดยรูปแบบฟูดเพลซมี 6 สาขา สามย่านมิตรทาวน์, สุขาภิบาล, เกตเวย์ บางซื่อ, ท่าอิฐ, หนามแดง และเคหะร่มเกล้า
ปัจจุบันบิ๊กซีมีทุกแพลตฟอร์มรวม 1,371 ดังนี้ รูปแบบมินิบิ๊กซี 1,157 สาขา อัปเดต ณ สิ้นเดือนกันยายน 63 จำนวน 1,157 สาขา, รูปแบบฟูดเพลซ 6 สาขา (สามย่านมิตรทาวน์, สุขาภิบาล, เกตเวย์ บางซื่อ, ท่าอิฐ, หนามแดง และเคหะร่มเกล้า), รูปแบบบิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เกต อัปเดต ณ สิ้นเดือนกันยายน 63 จำนวน 150 สาขา สาขาล่าสุดคือสาขามหาชัย 2 ในวันที่ 26 กันยายน 2563, รูปแบบบิ๊กซี มาร์เกต จำนวน 52 สาขา และรูปแบบดีโป้ มี 5 สาขา (ประทาย กุฉินารายณ์ ตาคลี ประโคนชัย และปักธงชัย)
นายปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้เทรนด์พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยลูกค้าเกิดความคาดหวังใหม่ๆ จากแบรนด์สินค้า และคำนึงถึงราคาและคุณภาพของสินค้าในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น
ล่าสุดบิ๊กซีได้จัดแคมเปญ ถูกจริง ประหยัดจริง ที่บิ๊กซีลดราคาสินค้าที่จำเป็นทุกหมวดหมู่ ทุกวัน ทุกแผนก รวมมากกว่า 5,000 รายการ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2563-31 มกราคม 2564 โดยเลือกสินค้าจำเป็นในชีวิตจากข้อมูลที่วิเคราะห์มาจากบัตรบิ๊กการ์ดที่มีฐานผู้ถือบัตรมากกว่า 10 ล้านราย และแอ็กทีฟมากกว่า 80% เช่น น้ำปลาทิพรส น้ำมันปาล์มมรกต มาม่า ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ ซอสหอยนางรมตราแม่ครัว ข้าวหอมมะลิพนมรุ้ง เป็นต้น และยังมอบส่วนลดอีก 3 ต่อสำหรับสมาชิกบิ๊กการ์ดด้วย
ต่อที่ 1 รับส่วนลดทันที เมื่อซื้อสินค้าถึงยอดซื้อที่กำหนด ต่อที่ 2 รับคะแนนบิ๊กการด์ 2 เท่า เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการครบ 400 บาท ต่อที่ 3 ใช้คะแนนบิ๊กการด์แลกรับส่วนลดเริ่มที่ 12.5% นอกจากนี้ บิ๊กซียังได้เตรียมโปรโมชัน และกิจกรรมพิเศษ สลับสับเปลี่ยนกันมาให้ลูกค้าได้เลือกชอปกันทุกเดือนตลอดปี 2563 โดยในวันที่ 1-26 ตุลาคม 2563 นี้ บิ๊กซีจะจัดแคมเปญ แลกซื้อสุดคุ้ม เพียงซื้อสินค้าในบิ๊กซี 100 บาทรับสิทธิแลกซื้อสินค้าจากหลากหลายกลุ่มสินค้าในราคาพิเศษสุดๆ รวมทั้งหมดกว่า 70 รายการ
นอกจากนั้นยังมีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ธีม บ้านทรายทอง 2020 โดยเบลล่า-ราณี แคมเปน และน้าค่อม ชวนชื่น เป็นพรีเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ บิ๊กซียังได้มีการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เช่น Call for shop สั่งซื้อผ่านโทรศัพท์หรือไลน์สั่งซื้อสินค้า, บริการไดรฟ์ทรู สั่งซื้อล่วงหน้าและขับรถมารับสินค้าที่สาขา, บริการบิ๊กซีชอปปิ้งออนไลน์เอ็กซ์เพรสดีลิเวอรีเซอร์วิส ส่งสินค้าด่วนถึงหน้าบ้านใน 1 ชั่วโมง เป็นต้น และช่องทางพันธมิตรออนไลน์ เช่น ช้อปปี้ ลาซาด้า แฮปปี้เฟรช เพื่อเข้าถึงลูกค้า
บิ๊กซีเข้าใจถึงความจำเป็นของลูกค้าและห่วงใยลูกค้าทุกคน จึงมุ่งเจาะถึงความต้องการที่แท้จริงด้วยการลดราคาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ มุ่นมั่นที่จะคัดสรรสินค้า มอบข้อเสนอโปรโมชันที่ดีที่สุด ให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า สร้างเซกเมนต์ที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรักษาความพึงพอใจและความมั่นใจในการซื้อสินค้าที่บิ๊กซีตลอดไป” นายปฐพงศ์กล่าว