กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมจัดสัมมนา “EFTA New Market in New Normal : การขยายตลาดใหม่รับชีวิตวิถีใหม่กับกลุ่มสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป” นำทีมผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนร่วมระดมความเห็น เพื่อชี้โอกาสทางการค้าและการลงทุนไทย-EFTA
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ กำหนดจัดสัมมนา เรื่อง “EFTA New Market in New Normal : การขยายตลาดใหม่รับชีวิตวิถีใหม่กับกลุ่มสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป” ในวันที่ 30 ก.ย. 2563 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยเชิญวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร นักวิชาการ และภาคประชาสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)
ทั้งนี้ กรมฯ ได้มอบสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) ศึกษาวิจัยเรื่องผลประโยชน์ และผลกระทบของการจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับ EFTA (เอฟต้า) กำหนดเสร็จประมาณปลายปีนี้ ซึ่งการจัดเวทีสัมมนาระดมความเห็นครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการรับฟังความเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มเกษตรกร ภาคประชาสังคม ในเรื่องการทำ FTA ระหว่างไทยกับ EFTA เพื่อประกอบการจัดทำความเห็นเสนอระดับนโยบายต่อไป
สำหรับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ EFTA เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ที่มีระบบเศรษฐกิจ การค้า และมาตรฐานสินค้าใกล้เคียงกับสหภาพยุโรป ปัจจุบัน EFTA มีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กว่า 30 ฉบับ กับ 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ นอกจากนี้ EFTA ยังได้สรุปผลการเจรจา FTA กับอินโดนีเซียแล้ว เหลือเพียงรอการให้สัตยาบัน และยังอยู่ระหว่างการเจรจากับมาเลเซียและเวียดนาม ในส่วนของไทยเคยเจรจา FTA กับ EFTA เมื่อปี 2548 แต่ได้หยุดชะงักไปเมื่อปี 2549 ซึ่งต่อมา EFTA ได้แสดงความสนใจในการฟื้นการเจรจากับไทยอีกครั้ง
EFTA เป็นคู่ค้าลำดับที่ 16 ของไทย ในปี 2562 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 9,770 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟต้ามูลค่า 5,670 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนไทยนำเข้าจาก EFTA มูลค่า 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น
การสัมมนาครั้งนี้ กรมฯ ได้เพิ่มช่องทางการร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook Fanpage กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และรับชมย้อนหลังได้ที่ Facebook และ YouTube : DTNChannel