“คมนาคม” ลงทุนแสนล้านผุดโครงข่ายลงใต้-ชง ครม.เคาะมอเตอร์เวย์ “เอกชัย-บ้านแพ้ว” ต.ค.นี้

“ศักดิ์สยาม” ดัน 5 โครงการ วงเงินกว่า 1 แสนล้านแก้คอขวดขยายเส้นทางเชื่อมลงใต้ ชง ครม.เคาะมอเตอร์เวย์ “บ้านแพ้ว” 3 หมื่นล้านใน ต.ค.นี้ ดัน PPP นครปฐม-ชะอำ 7.9 หมื่นล้าน แบ่งสร้างเป็นช่วงเลี่ยงจุดติดเวนคืนเพชรบุรี ชี้หากปรับแบบ 5 กม. ต้องทำ EIA ใหม่
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางหลวงและแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ราชบุรี และเพชรบุรี ว่า กรมทางหลวง (ทล.) มีแผนดำเนินการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 32 (ทางยกระดับบนถนนพระราม 2) ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 26 กม. วงเงินลงทุน 32,187 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาจราจรบนถนนพระราม 2 โดยใช้แหล่งเงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ซึ่งมีรายได้ประมาณปีละ 10,000 ล้านบาท ไม่มีปัญหาในการลงทุน

ขณะนี้ ทล.กำลังก่อสร้างช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 10 กม. คาดจะแล้วเสร็จปี 2565 และจะเปิดให้บริการก่อน ส่วนช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16 กม.จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติในเดือน ต.ค.นี้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี แล้วเสร็จประมาณปี 2567

สำหรับมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 109 กม. วงเงิน 79,006 ล้านบาท ยังติดปัญหาคัดค้านในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ระยะทาง 5 กม. นายศักดิ์สยามกล่าวว่า จะแก้ปัญหาโดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ช่วง คือ จากจุดเริ่มต้น บริเวณชุมทางต่างระดับนครชัยศรี-เพชรบุรี และจากเพชรบุรี-ชะอำ โดยเว้นจุดที่มีปัญหาไว้ก่อน ก่อสร้างช่วงปี 2565-2568 จึงยังมีเวลาในการทำความเข้าใจกับประชาชนที่คัดค้าน หากประชาชนเข้าใจจึงก่อสร้างช่วงที่ขาดอยู่เพื่อเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ แต่หากไม่ยินยอมอาจจะต้องปรับแนวเส้นทางและปรับรูปแบบก่อสร้าง ต้องศึกษา EIA ซึ่งอาจจะใช้เวลาเพิ่มอีกประมาณ 3 ปี

“เชื่อว่าเมื่อได้เริ่มก่อสร้างเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเห็นภาพและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับโครงการ ซึ่ง เส้นทางลงสู่ภาคใต้จะมีมอเตอร์เวย์ 3 เส้น คือ พระราม 2, เพชรเกษม และมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ จะเป็นการเปิดประตูในการเดินทางในภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้เชื่อมต่อกันได้สะดวก โดยใช้ระบบ M-Flow จัดเก็บค่าผ่านทางทั้ง 16 ด่าน ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการ PPP เห็นชอบมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ แล้วจะนำเสนอ ครม.ขออนุมัติโครงการและเปิดประมูลหาผู้ร่วมลงทุนได้ทันที ส่วนการก่อสร้างสามารถแบ่งเป็นช่วงๆ ได้”

@ผุดถนนสายใหม่ เชื่อมวังมะนาวให้เป็นสี่แยก

นอกจากนี้ ทล.จะก่อสร้างถนนแนวใหม่เชื่อมสามแยกวังมะนาว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณสามแยกวังมะนาว ถึง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ระยะทาง 36.8 กม. วงเงินค่าก่อสร้าง 2,650 ล้านบาท (ไม่รวมค่าเวนคืน) โดยในปี 2564 ได้รับงบ 40 ล้านบาทสำหรับศึกษาออกแบบและทบทวน EIA คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565 โดยแบ่งเป็น 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ช่วงสามแยกวังมะนาว-บ.หนองลังกา ระยะทาง 14.8 กม. ก่อสร้างเป็นทางแนวใหม่ ขนาด 4 ช่องจราจร รวมทางแยกต่างระดับ ตอนที่ 2 ช่วง บ.หนองลังกา-บ.ห้วยศาลา ระยะทาง 7.1 กม. เป็นการขยายถนนเดิม ตอนที่ 3 ช่วง บ.ห้วยศาลา-สี่แยกเข้า อ.หนองหญ้าปล้อง ระยะทาง 14.9 กม. เป็นการขยายถนนเดิม ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

@เทงบ 700 ล้านปรับปรุงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง

โครงการปรับปรุงก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สะพานสิริลักขณ์) ซึ่งใช้งานมากว่า 65 ปี โดยจะก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำแบบสะพานคู่ กว้างจากข้างละ 2 ช่องเป็นข้างละ 3 ช่องจราจร ค่าก่อสร้าง 700 ล้านบาท โดยได้รับงบวงเงิน 20 ล้านบาทเพื่อสำรวจออกแบบและศึกษา EIA ในปี 2564 คาดว่าจะดำเนินงานก่อสร้างในปี 2566 พร้อมแล้วเสร็จในปี 2568
อย่างไรก็ตาม ให้กรมทางหลวงพิจารณารูปแบบการก่อสร้างสะพานแยกต่างหากเพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจรบนสะพานเดิมในระหว่างการก่อสร้าง และทำให้เป็น 10 ช่องจราจรแทน