กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ขอความร่วมมือธุรกิจสำรวจผลิตปิโตรเลียมสนับสนุนจ้างงานคนไทย และหนุนใช้สินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตในไทยเป็นอันดับแรก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทย กรมฯ จึงได้ขอความร่วมมือจากอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสนับสนุนการจ้างงานคนไทย พร้อมกับผู้ที่ได้รับสัมปทาน ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต และผู้รับจ้างซึ่งได้ทำสัญญาจ้างเหมาโดยตรงกับผู้รับสัมปทานหรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต ในการพิจารณาให้การสนับสนุนใช้บริการด้านยานพาหนะ การก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากผู้รับจ้างหรือวัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่ในประเทศเป็นอันดับแรก เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
นอกจากนี้ ในการดำเนินการของแปลงสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ และบงกช ที่จะสิ้นอายุในปี 2565 และจะมีการเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการจากระบบสัมปทานเป็นระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ PSC ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการจ้างพนักงานคนไทยเช่นกัน โดยมีข้อกำหนดในสัญญาแบ่งปันผลผลิตให้ผู้รับสัญญาต้องจ้างพนักงานไทยในสัดส่วนที่ไม่น้อยกว่า 95% นับว่าเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการส่งเสริมให้มีการจ้างงานคนไทยอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม
“กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการจ้างงานคนไทย ในอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมาโดยตลอด โดยในปัจจุบันบริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม มีการจ้างพนักงานคนไทยในสัดส่วนที่มากกว่า 90% และในช่วงวิกฤติโควิด 19 นี้ บริษัทต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการลดอัตราการเลิกจ้างงานพนักงานคนไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากการว่างงาน” นายสราวุธกล่าว