นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงกรณีมีคราบน้ำมันบริเวณหาดสุชาดา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศได้ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทผู้รับสัมปทานทุกรายที่มีการดำเนินงานในอ่าวไทยทันที โดยตรวจสอบย้อนหลังไป 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันดิบจากกระบวนการผลิตและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพและการหาที่มาของคราบน้ำมัน หรือก้อนน้ำมันที่เกิดขึ้นในแต่ละปีให้มีความชัดเจน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และ 9 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กรมควบคุมมลพิษ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมศุลกากร ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศลชร.)
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) พัฒนาฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อให้สามารถบ่งชี้ที่มาของคราบน้ำมันดิบบนพื้นฐานทางวิชาการตามหลักมาตรฐานสากล นับเป็นการพัฒนาระบบควบคุมและตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเล
สำหรับเหตุการณ์การพบก้อนน้ำมันบริเวณชายหาดต่าง ๆ ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบกับฐานข้อมูลแล้ว ไม่พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าก้อนน้ำมันหรือคราบน้ำมันตามชายหาดดังกล่าว มาจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุของคราบน้ำมันดังกล่าวต่อไป