xs
xsm
sm
md
lg

“สุพัฒนพงษ์” ยัน ธปท.ดูแลปัญหาหนี้ได้ พร้อมรับปากสานต่อพลังงานเพื่อความเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุพัฒนพงษ์” มั่นใจ ธปท.จะดูแลปัญหาการชำระหนี้ได้หลังทยอยออกมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง พร้อมลงนาม อว.เดินหน้าปั้นนวัตกรรมตอบโจทย์รับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทั้ง EV ESS มั่นใจไทยมีจุดแข็งรอบด้านจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นการลงทุน พร้อมเข้าพบตัวแทนจากกลุ่มผีเสื้อกระพือปีกรับปากสานต่อการปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพื่อความเป็นธรรม


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จากมาตรการยืดเวลาการชำระหนี้เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ที่บางส่วนจะครบกำหนดนั้น มั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีมาตรการดูแลไว้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ซึ่งจากความเข้มแข็งทางด้านการเงินของไทย การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีระบบสาธารณสุขที่ดี รวมถึงการที่ไทยมีการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการลงทุน เขตนวัตกรรม ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมายเหล่านี้ จะทำให้ไทยสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนหลังโควิด-19 จบได้อย่างแน่นอน

"ผมเชื่อว่า ธปท.ดูแลเรื่องปัญหาการชำระหนี้อยู่แล้วอย่างต่อเนื่องไม่ต้องห่วง และสถาบันการเงินของไทยก็เข้มแข็ง โดยล่าสุด ธปท.ก็ออกโครงการ DR BIZ แก้หนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายราย และการที่เราควบคุมโควิด-19 ได้ดีเป็นที่ยอมรับระดับโลก ก็อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันไม่ให้มีการระบาดรอบ 2" นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

สำหรับการลงนามบักทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงานกับกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ปลัด 2 กระทรวงเป็นผู้ลงนามครั้งนี้จะตั้งคณะทำงานของทั้ง 2 กระทรวงขึ้นมาขับเคลื่อน โดยโจทย์สำคัญคือการเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่ยังคงเป็นปัญหาซ้ำซาก ตอบโจทย์นวัตกรรมพลังงานใหม่ๆ ที่มาตอบโจทย์ Disruptive เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) เป็นต้น และรวมถึงโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาของเสียจากภาคการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ ไทยไม่ควรจะเป็นแบบเดิมๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ทันโลกด้วยนวัตกรรม ดังนั้น งานวิจัยและพัฒนาฯ ที่ร่วมกับ อว.ครั้งนี้โดยการสนับสนุนของกองทุนเพื่อส่งเสริมและการอนุรักษ์พลังงานจะเป็นการต่อยอดงานวิจัยด้านพลังงานและอื่นๆ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามา


นายสุพัฒนพงษ์ยังกล่าวระหว่างการเข้าพบของตัวแทนจากกลุ่มผีเสื้อกระพือปีกว่า พร้อมที่จะสานต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้านพลังงานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน โดยพร้อมที่จะหารือ และขณะเดียวกันก็ต้องการให้มีการฟังข้อเท็จจริงต่างๆ เพราะภาคประชาชนก็คือประชาชนคนไทยด้วยกัน

นายณกานต์ จันธิราชนารา แกนนำกลุ่มผีเสื้อกระพือปีก กล่าวว่า สมัยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม โดยดึงเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมคณะทำงาน และได้มีการพิจารณาปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้สำเร็จด้วยการปรับลดราคาหน้าโรงกลั่นลง 50 สตางค์ต่อลิตรซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และยังมีหลายเรื่องที่ยังต้องดำเนินการต่อทั้งโครงสร้างราคาน้ำมันในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีน้ำมัน โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และการแก้ไขต้นทุนเอทานอลและไบโอดีเซลที่แพง ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกภาระราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องการให้สานต่อการทำงานคณะทำงานในชุดนี้ไว้คงเดิม

"การมาครั้งนี้เพื่อแสดงความยินดีและขอให้รองนายกฯ และ รมว.พลังงานได้สานต่อนโยบายดังกล่าวต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริงและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน" นายณกานต์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น