โรงงานและชาวไร่ส่งสัญญาณแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ฤดูหีบปี 63/64 ให้กำหนดอ้อยไฟไหม้เข้าหีบไม่เกิน 40% อ้อยสด 60% เหตุยังขาดแรงงานและเครื่องจักรมีไม่เพียงพอ พร้อมแนะให้หักเงินอ้อยไฟไหม้ 30 บาทต่อตันนำมาเฉลี่ยให้อ้อยสดเท่านั้น
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลเสนอแนวทางการแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ฤดูการหีบอ้อยประจำปี 2563/64 ในทางเดียวกับที่ชาวไร่อ้อยเสนอให้กำหนดปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบไม่เกิน 40% อ้อยสด 60% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบแต่ละโรงงาน เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานตัดอ้อยและเครื่องจักรจัดเก็บผลผลิตหรือรถตัดอ้อยยังมีราคาสูง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ชาวไร่ไม่มีทางเลือกต้องเผาอ้อย จึงต้องการให้มีการทยอยปรับลดสัดส่วนแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ทุกฝ่ายมีเวลาปรับตัว
“สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) มีเป้าหมายฤดูหีบอ้อยปี 63/64 ที่จะลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เหลือ 20% ปริมาณอ้อยสด 80% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ซึ่งเป้าหมายนี้ก็เห็นด้วยที่จะผลักดันต่อไป” นายสิริวุทธิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ควรปรับเปลี่ยนแนวทางการหักเงินอ้อยไฟไหม้ในปัจจุบันที่ให้หักตันอ้อยละ 30 บาท นำไปเก็บรักษาไว้ที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เมื่อปิดหีบให้นำเงินมาเฉลี่ยให้ชาวไร่ที่ส่งมอบเฉพาะอ้อยสดเท่านั้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนชาวไร่ที่ส่งมอบผลผลิตที่มีคุณภาพให้แก่โรงงาน ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมที่นำมาแบ่งให้กับอ้อยสดเพียง 70% และอ้อยไฟไหม้ 30% ทำให้ชาวไร่ยังเผาอ้อยอยู่โดยยึดหลักการทำดีควรได้ดีเพื่อจูงใจ เช่นเดียวกัน หากกำหนดข้อบังคับมาตรฐานในการหีบสกัดน้ำตาลต่อตันอ้อยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 90 กิโลกรัม โรงงานที่หีบสกัดน้ำตาลได้ต่ำกว่าจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน และหากโรงงานใดมีประสิทธิภาพหีบสกัดน้ำตาลที่ดีกว่า ก็ควรได้รับประโยชน์จากน้ำตาลที่ทำได้ดีเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน