“สุริยะ” เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติโครงการเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยวงเงินหมื่นล้านบาท แบ่งเป็นซื้อปัจจัยการผลิต 6,500 ล้านบาท และส่งเสริมตัดอ้อยสดลด PM 2.5 อีก 3,500 ล้านบาท หลังราคาอ้อยขั้นต้นปี 62/63 ตกต่ำ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เร่งรัดโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563 วงเงิน 6,500 ล้านบาท และส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดวงเงิน 3,500 ล้านบาท เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
“ก่อนหน้านี้ 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยได้เข้าหารือเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 62/63 ตกต่ำ จึงต้องการมาตรการสนับสนุนจากรัฐ เช่น ฤดูหีบที่ผ่านมาที่รัฐได้นำงบประมาณกลางมาช่วยเหลือเพิ่มค่าอ้อย ซึ่งก็ได้รับปากว่าจะเร่งดำเนินการเพราะเข้าใจถึงความยากลำบากของพี่น้องเกษตรกร” นายสุริยะกล่าว
อย่างไรก็ตาม ครม.เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาได้เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 ในอัตราอ้อยตันละ 750 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซีซีเอส และกำหนดอัตราขึ้นลงของราคาอ้อยเท่ากับ 45 บาทต่อ 1 หน่วย ซีซีเอส และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 เท่ากับ 321.43 บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแล้ว
ทั้งนี้ หาก ครม.อนุมัติโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาทส่วนหนึ่งจะทำให้ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานจะได้รับราคาอ้อยมากกว่า 1,000 บาทต่อตันอ้อย เพราะจะได้รับเงินค่าอ้อยมากกว่าอ้อยไฟไหม้อยู่ประมาณ 130 บาทต่อตันอ้อย ทั้งนี้ เนื่องจากระทรวงฯ ต้องการสนับสนุนและจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงานแทนการเผาอ้อยไฟไหม้เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองจากสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5
“นอกจากจะเป็นการส่งเสริมอ้อยไฟไหม้แล้วยังเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยเฉพาะชาวไร่อ้อยรายเล็กให้สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็น และสามารถนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพต่อไป โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นเกษตรกรกลุ่มแรกที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย ซึ่งในปี 2563 มีเป้าหมายอ้อยสดเข้าหีบโรงงานน้ำตาล 50% ของผลผลิตรวมปีนี้” นายสุริยะกล่าว