กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดี ฟิลิปปินส์ยุติการไต่สวนใช้มาตรการเซฟการ์ดสินค้ากระจกของไทยแล้ว หลังเดินหน้าแก้ต่าง จนชี้ให้เห็นว่าสินค้าจากไทย ไม่ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการด้านภาษีของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Tariff Commission) ออกรายงานผลการไต่สวนชั้นที่สุด กรณีการไต่สวนการใช้มาตรการปกป้อง (Safeguard : SG) จากการนำเข้าสินค้ากระจก (Float Glass) ที่เพิ่มขึ้น ภายใต้พิกัดศุลกากร 7005.10.90 7005.21.90 และ 7005.29.90 โดยเห็นควรยุติการไต่สวนดังกล่าว เนื่องจากไม่พบความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือคุกคามต่ออุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้สินค้ากระจกที่ส่งออกจากไทยจะไม่มีภาระอากร SG เพิ่มเติม เมื่อนำเข้าไปยังฟิลิปปินส์
ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ได้เปิดการไต่สวนการใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้ากระจกที่เพิ่มขึ้นตามคำร้องขอของอุตสาหกรรมภายในฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนก.พ.2562 ทำให้สินค้าจากไทยโดนเรียกเก็บอากรชั่วคราวในอัตรา 2,552 เปโซ/ตัน สำหรับพิกัด 7005.29.90 และอัตรา 2,835 เปโซ/ตัน สำหรับพิกัด 7005.10 90 และ 7005. 21.90 ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.2562 เป็นระยะเวลา 200 วัน
“กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการแก้ต่างไปยังกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ (DTI) เพื่อไม่ให้มีการบังคับใช้มาตรการ SG กับสินค้าดังกล่าวที่นำเข้าจากไทย โดยชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ฟิลิปปินส์มีปริมาณการนำเข้าสินค้าจากไทยต่ำกว่า 3% และสินค้าจากไทยมิได้ทำความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์ ซึ่งจากการที่ยุติการไต่สวนดังกล่าว ทำให้สินค้าของไทยไม่โดนเรียกเก็บอากร SG และผู้ส่งออกไทยที่ได้ชำระอากรชั่วคราวไปแล้วสามารถยื่นขอคืนอากรได้”นายกรีรติกล่าว
ปัจจุบันฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกสินค้ากระจกเป็นอันดับที่ 11 ของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 23 ล้านบาท คิดเป็น 1.45% ของมูลค่าการส่งออกรวม ขณะที่ฟิลิปปินส์นำเข้าสินค้ากระจกจากไทยเป็นอันดับที่ 4 โดยที่ไทยครองส่วนแบ่งการตลาดในพิลิปปินส์อยู่ที่ 6.86%
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้ากระจกไปยังฟิลิปปินส์ สามารถใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนในการขอยกเว้นภาษีนำเข้า (อัตราภาษีนำเข้า 0%) ได้ โดยยื่นขอออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) จากกรมฯ