“จุรินทร์” มอบหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียน GI ข้าวไร่ดอกข่าพังงา และหนังสืออนุญาตใช้ตรา GI ทุเรียนสาลิกาพังงา มั่นใจเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน พร้อมสั่งลุยเพิ่มสินค้า GI ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีการขึ้นทะเบียน GI แล้วรวม 126 สินค้า สร้างรายได้ให้ชุมชน 5,378 ล้าน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการมอบหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าข้าวไร่ดอกข่าพังงา ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพังงา และมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการทุเรียนสาลิกาพังงา จำนวน 18 ราย ณ ที่ว่าการ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่าสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าที่ผลิตในชุมชน และสามารถต่อยอดการทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันของดีในชุมชนให้ขึ้นทะเบียนเป็น GI รายการใหม่ รวมทั้งส่งเสริมสินค้า GI เดิมให้มีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นต่อไป
“ภาคใต้มีสินค้า GI หลากหลายรายการที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และมีศักยภาพในการแข่งขัน เช่น ทุเรียนสาลิกาพังงา มุกภูเก็ต สับปะรดภูเก็ต กาแฟกระบี่ หรือแม้แต่สินค้าข้าวไร่ดอกข่าพังงา ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียน GI เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็สามารถสร้างรายได้สู่ชุมชนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ”
นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน GI แล้วรวม 126 สินค้าทั่วประเทศ สามารถสร้างเม็ดเงินให้ชุมชนท้องถิ่นของไทยรวมกว่า 5,378 ล้านบาท และเฉพาะปี 2563 ได้ผลักดันให้ขึ้นทะเบียน GI ได้ถึง 19 รายการ สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการร่วมกันในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการให้มีความพร้อมอย่างสูงสุดเพื่อรุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถยกระดับสินค้า GI ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และปลุกเศรษฐกิจชุมชนและของไทยให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายตลาดต่างประเทศ เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนคุ้มครองสินค้า GI ประเภทต่างๆ ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป และหัตถกรรม โดยสินค้า GI เป็นสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพและลักษณะพิเศษ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ผสมผสานเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทำให้สินค้ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และได้เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน