กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดสิงคโปร์ 4 เดือนยังสดใส เพิ่มขึ้น 4.83% ภาพรวมยังแข่งขันได้ดี แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออก เร่งเพิ่มมูลค่าผลไม้ด้วยนวัตกรรม และเจาะตลาดผลไม้ออร์แกนิก หลังมีแนวโน้มเติบโตสูง ส่วนการเข้าสู่ตลาด เน้นนำผลไม้ไทยเปิดตัวในงานแฟร์ต่างๆ แต่ช่วงนี้ต้องรอไปก่อนเหตุติดโควิด-19 แนะร่วมมือผู้นำเข้าใช้ช่องทางออนไลน์เพิ่มโอกาสขายผลไม้ไทยอีกทาง
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการสำรวจตลาดผลไม้ของไทยในตลาดสิงคโปร์ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ โดยพบว่าในช่วง 4 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.) สิงคโปร์มีการนำเข้าผลไม้จากไทยมูลค่า 11.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.83% โดยผลไม้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5.06% ของการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของสิงคโปร์ ผลไม้ที่มีการนำมากที่สุด ได้แก่ มะม่วงสดและแห้ง ฝรั่งสดและแห้ง ลำไยสด มะพร้าวอ่อน ลำไยอบแห้ง ทุเรียน แตงโม มังคุด สับปะรด กล้วย ส้มโอ เงาะ มะขาม ลิ้นจี่ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะผลไม้สดพบว่า สิงคโปร์นำเข้าผลไม้สดจากไทย ช่วง ม.ค.-เม.ย. 63 มีอัตราขยายตัวสูงถึง 10.24% โดยกรมฯ มีกำหนดจัดงานเทศกาล Thai Fruits Golden Month เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในตลาดสิงคโปร์ในช่วงเดือน ก.ค.นี้
“ภาพรวมตลาดผลไม้ในสิงคโปร์ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่มีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากผู้บริโภคสิงคโปร์มีกำลังซื้อสูง และนิยมเลือกซื้อสินค้าผลไม้ที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคา และเริ่มให้ความสำคัญต่อการบริโภคผลไม้อินทรีย์เพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม” นายสมเด็จกล่าว
น.ส.สุปราณี ก้องเกียรติกมล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ กล่าวว่า ปัจจุบันสิงคโปร์ได้มีการวางแผนและพัฒนาการทำเกษตรในเขตเมืองด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ Living Lab เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า แต่ขณะนี้ยังเน้นการปลูกผักเป็นหลัก ดังนั้น ผลไม้จึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลักต่อไป จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยายการส่งออกผลไม้ไปยังสิงคโปร์ได้เพิ่มขึ้น โดยมีความต้องการผลไม้แบบแช่เย็นแช่แข็ง และผลไม้ออร์แกนิกเพิ่มขึ้น โดยมีคู่แข่งสำคัญ ที่มีผลไม้ใกล้เคียงกับไทย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า เป็นต้น
สำหรับแผนการเจาะตลาดผลไม้สิงคโปร์ ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความหลากหลายของตัวสินค้า การแปรรูปผลไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า และควรให้ความสำคัญกับกระแสผลไม้ออร์แกนิกที่กำลังมาแรงและมีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ก็จะส่งผลดีต่อการส่งออกผลไม้ของไทย
ส่วนการเข้าสู่ตลาด ควรจะเข้าเข้าร่วมงานแสดง Thai Festival หรือ Thailand Week ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จำหน่ายเฉพาะสินค้าไทย รวมถึงผลไม้ไทย และพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในสิงคโปร์ เช่น Asia Pacific Food Expo และ Singapore Food Expo แต่ขณะนี้สิงคโปร์ยังมีคำแนะนำให้ยกเลิกหรือชะลอการจัดงานขนาดใหญ่ออกไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธุรกิจสิงคโปร์หลายมาตรการ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 แพกเกจ มีมูลค่ารวม 59.9 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ และยังมีการประกาศแพ็กเกจ E-Commerce Booster ที่ให้การสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคการค้าปลีกในสิงคโปร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถประคองตัวได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก รวมถึงสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจเพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้พร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทย ที่จะร่วมมือกับผู้นำเข้าในการทำตลาดผลไม้ไทยทางออนไลน์ด้วย