xs
xsm
sm
md
lg

“อรรถพล” CEO ปตท.คนใหม่ ลั่นพร้อมงบลงทุน 5 ปี 1.5 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อรรถพล” CEO ปตท.คนใหม่ การันตีผลประกอบการปี 63 เป็นบวกแม้ขาดทุนไตรมาส 1/63 พร้อมเดินหน้าลงทุนทั้งกลุ่ม 1.4 แสนล้านบาท และแผนลงทุน 5 ปี 1.5 ล้านล้านบาท ชูกลยุทธ์ PTT by PTT


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจากการประเมินฐานะการเงิน ในกรณี Stress test ปตท.มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 63 จะเป็นบวก แม้ในไตรมาส 1/63 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1.55 พันล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะกระทบต่อผลการดำเนินงานของ ปตท.ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 นี้ คาดว่าธุรกิจน่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปี 2563

ขณะเดียวกัน กลุ่ม ปตท.ยังมีศักยภาพการลงทุนตามแผนในปีนี้ที่ 1.4 แสนล้านบาท และลงทุน 5 ปีมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท

“ปตท.ได้ทำการประเมินศักยภาพองค์กรโดยการทำ Stress Test เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความมั่นใจว่าองค์กร ปตท.ยังมีความเข็งแกร่ง โดยในกรณีที่แย่ที่สุดในปีนี้ผลประกอบการโดยรวมของ ปตท.จะยังเป็นบวก รวมถึงยังมี room ความพร้อมที่จะลงทุนในปีนี้ของทั้งกลุ่ม ปตท.ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท และมีศักยภาพที่จะลงทุนต่อเนื่องไปอีก 5 ปีในธุรกิจใหม่ๆ อีกประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท อีกทั้งสถาบันเครดิตทางการเงินได้เข้ามาประเมินแล้วให้เครดิตเรตติ้งกลุ่ม ปตท.ที่ BBB+ ซึ่งถือว่ายังอยู่ใน Investment Grade” นายอรรถพลกล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับฝ่ายบริหารและพนักงาน ปตท.

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยในมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปีนี้น่าจะติดลบ 5.3% ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ไทยมีระบบสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นมืออาชีพ ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยลง

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับพนักงานของ ปตท.ว่าถึงแม้รัฐจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง แต่พนักงาน ปตท.ทุกคนยังต้องเคร่งครัดการดูแลตัวเองตามมาตรการรัฐ ในเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ดูแลเรื่องความสะอาด เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้โควิด-19 เกิดการระบาดซ้ำ

ในส่วนของการปรับตัวรองรับสถานการณ์และลดผลกระทบของ ปตท.นั้น ได้มีการจัดตั้ง PTT Group Vital Center ขึ้นเพื่อที่จะดูแลและบริหารจัดการในช่วงนี้ รวมทั้งการวางแผนไปข้างหน้า โดยการบริหารจัดการจะดำเนินการตาม 4R ประกอบด้วย

Resillience การสร้างความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สร้างความปลอดภัยให้พนักงาน ประเมินสุขภาพองค์กร โดยจัดทำ Stress test ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จัดลำดับความสำคัญโครงการลงทุนของ ปตท. จัดทำ Group optimization ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้ง Value Chain และการรักษาสภาพคล่องขององค์กร

Restart เตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ นำพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด รักษาความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท.ไว้ให้ได้

Re-imagination การเตรียมความพร้อมที่จะออกแบบธุรกิจให้รองรับการเปลี่ยนทางธุรกิจที่จะเป็น Next Normal ทั้งธุรกิจต้นน้ำ ปลายน้ำ และ New S Curve

Reform จะต้องมีการปรับเปลี่ยน จัดโครงสร้างองค์กร รูปแบบธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดแบบไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ โดยเตรียมที่จะนำแผนของ Re-imagination และ Reform เข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงกลุ่ม ปตท.เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตกลุ่ม (Strategic Thinking Session:STS) ต่อไป

ทั้งนี้ ตนมีแนวคิดที่เรียกว่า Powering Thailand’s Transformation หรือ PTT โดยมีความมุ่งหวังที่จะทำให้กลุ่ม ปตท.เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ พัฒนาสังคม และคุณภาพชีวิตของคนไทย

สำหรับกลยุทธ์ที่จะทำให้บรรลุแนวคิดดังกล่าวนั้น คือการต่อยอดจากการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และเพิ่มเติมด้วยการเปิดกว้างทางความคิดรับบริบทจากภายนอกปรับให้ ปตท.ตอบสนองต่อความต้องการผู้บริโภคและความคาดหวังต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการใช้กลยุทธ์ PTT by PTT ประกอบด้วย Partnership & Platform สร้างพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจของ ปตท.ให้มีแพลตฟอร์มมากกว่าเป็นผู้ผลิตสินค้าหรือจำหน่ายสินค้า

ปตท.จะดึงดูดพันธมิตรที่มี Know-how จากต่างประเทศควบคู่กับความร่วมมือทั้งรัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ประกอบการไทยเอสเอ็มอีในการขับเคลื่อนคุณค่าจากมือพันธมิตรสู่ผู้บริโภค ซึ่งพวกเราจะร่วมกันสร้างนิวบิสิเนสโมเดลและนิวอีโคซิสเต็มร่วมกัน Technology ที่เกิดจากการผสมผสานด้วยโนว์ฮาว นวัตกรรมและดิจิทัลจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยจะใช้เทคโนโลยีในทุกมิติของกระบวนการการดำเนินงาน ทั้งการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่และใช้บริหารจัดการองค์กร รวมทั้งการขับเคลื่อนสู่ภายนอกสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม Transparency & Sustainability สร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น