ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่ม 2 เท่าตัว เกือบ 4 แสนเมื่อ 4 พ.ค.หลังคลายล็อกดาวน์ กรมรางวอน ปชช.วางแผนเดินทาง คาดพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ยอดพุ่ง ประสานผู้ให้บริการเข้มงวดเว้นระยะ ลดหนาแน่น
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนเดินทางมากขึ้น โดยจากสถิติพบว่าเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563 มีประชาชนใช้บริการระบบราง ทั้งรถไฟและรถไฟฟ้าในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวน 395,062 คน เพิ่มขึ้นจากสภาวการณ์ช่วงวันศุกร์ที่ 1 พ.ค. 2563 ที่มีเฉลี่ยเพียง 188,989 คน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว
โดยวันที่ 1 พ.ค. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์มีผู้โดยสาร 9,767 คน ส่วนวันที่ 4 พ.ค. มีผู้โดยสาร 19,081 คน
รถไฟฟ้า MRT วันที่ 1 พ.ค. มีผู้โดยสาร 60,476 คน วันที่ 4 พ.ค. มีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 140,530 คน
รถไฟฟ้าบีทีเอส วันที่ 1 พ.ค. มีผู้โดยสาร 112,200 คน วันที่ 4 พ.ค. มีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 233,300 คน
คาดการณ์ว่าวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งเป็นวันทำงานจะมีผู้ใช้บริการระบบรางเพิ่มขึ้นอีก
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางขอความกรุณาช่วยประชาสัมพันธ์ประชาชน
1) วางแผนเดินทาง
2) ป้องกัน รักษาสุขอนามัย
3) สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
4) เผื่อเวลาเดินทาง
5) เว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing
กรมการขนส่งทางรางประสานขอความร่วมมือหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ให้ดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาสภาพรถโดยสาร ระบบการเดินรถ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมสมบูรณ์ในการให้บริการและไม่เกิดเหตุขัดข้อง และหากมีความหนาแน่นของผู้โดยสารในแต่ละสถานี ให้หน่วยงานผู้ให้บริการฯ ดำเนินมาตรการบริหารการเข้าสู่ระบบของผู้โดยสาร โดยคำนึงถึงมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) จากบุคคลอื่นๆ ในระยะอย่างน้อย 1 เมตรเพื่อรับบริการตามความเหมาะสม
โดยให้ดำเนินการแบ่งเป็นกลุ่ม (Group Release) 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ก่อนการขึ้น-ลง เข้าสู่ชั้นจำหน่ายตั๋ว ตอนที่ 2 ก่อนการผ่านหน้าประตูกั้นจัดเก็บค่าโดยสาร และตอนที่ 3 ก่อนเข้าสู่ขบวนรถ พร้อมทั้งให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในการเผื่อเวลาการเดินทางเพื่อลดความหนาแน่น ซึ่งเป็นความเสี่ยง
