“ศักดิ์สยาม” เผย ต.ค.นี้ “มอเตอร์เวย์” เริ่มใช้ระบบ M-FLOW ติดกล้องสแกนทะเบียนรถ ชำระค่าผ่านทางแทนเงินสดแบบ “ขึ้นก่อน จ่ายทีหลัง” เลิกไม้กั้น วิ่งฉิวไม่ต้องชะลอแก้รถติดหน้าด่าน สั่ง กทพ.เร่งใช้บนทางด่วนในปี 64
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาจราจรบริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง (ทล.) และทางด่วน ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า จากที่ให้นโยบายเร่งด่วนต่อ ทล.และ กทพ.ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงได้ศึกษาพัฒนาระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางรูปแบบไม่มีไม้กั้น (M-FLOW) โดยใช้เทคโนโลยีระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ หรือ Automated License Plate Recognition ในการคิดค่าผ่านทางโดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ซึ่งจะเริ่มใช้งานนำร่องได้ในเดือน ต.ค. 2563 และให้ ทล.และ กทพ.บูรณาการการทำงานเพื่อให้เป็นระบบเดียวกัน หรือ Single Platform System เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งมอเตอร์เวย์ และทางด่วนได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2564
ระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติในการชำระค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หรือ Automatic Licen plate Reconitetion เป็นหลักการทำงานของ Video Tolling ภายใต้ความเร็วที่ 80 กม./ชม. จะรองรับรถได้ถึง 1,200 คัน/ชม. เปรียบเทียบกับช่องทางอัตโนมัติ (M Pass) ปัจจุบันรองรับได้ 500 -800 คัน/ชม. อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของระบบ M-FLOW จะให้รถวิ่งผ่านได้ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ประกาศใช้บนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ จะเพิ่มความเร็วรถผ่านหน้าด่านและรองรับรถได้ถึง 2,000-2,500 คัน/ช่องทาง หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้รถเคลื่อนตัวหน้าด่านได้เร็วขึ้นและไม่มีปัญหารถติด
ทั้งนี้ การชำระเงินค่าผ่านทางจะเป็นระบบ postpaid คือแบบจ่ายทีหลัง โดยให้ชำระสิ้นเดือน ซึ่งจะมีทั้งแบบออกบิลเหมือนบิลค่าน้ำ ค่าไฟ และชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ช่องทางต่างๆ กรณีที่ไม่ชำระค่าใช้จ่ายจะถูกปรับ 10-15 เท่าของมูลหนี้ ดังนั้น ทล.จะมีการเปิดประมูลเพื่อจัดจ้างเอกชนเข้ามาติดตั้งระบบ และจัดจ้างเอกชน (Outsource) เพื่อบริหารจัดการระบบ โดยกรมทางหลวงและ กทพ.ในฐานะผู้กำกับจะต้องได้รับค่าผ่านทางครบ 100%
“ระบบนี้กล้องจะทำหน้าที่ถ่ายทะเบียนรถ และมีซอฟต์แวร์ประมวลผลเพื่อคิดค่าผ่านทาง ซึ่งการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถจะประสานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รวมถึงมาตรการกรณีไม่ชำระค่าผ่านทางตามที่เรียกเก็บจะมีบทลงโทษในการต่อทะเบียนรถด้วย ระบบนี้หลายประเทศใช้กันแล้วเพราะแก้ปัญหาได้ทั้งรถติดหน้าด่านรวมไปถึงเรื่องอาชญากรรมต่างๆ” นายศักดิ์สยามกล่าว
ตามแผนงาน กรมทางหลวงจะเริ่มนำร่องการใช้งานระบบ M-FLOW บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอก กทม.ด้านตะวันออก ช่วงบางปะอิน-บางพลี) ที่ด่านทับช้าง1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 โดยในเดือน เม.ย.นี้จะลงนามสัญญากับที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด จัดทำ TOR และกำหนดราคากลางสำหรับประมูล 2 งาน ได้แก่ งานติดตั้งระบบ และงานจัดจ้างบริหารจัดการระบบ ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. 63 เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบในเดือน ส.ค.-ต.ค. 63 และเปิดใช้ระบบในเดือน ต.ค. 63
โดยจะมีการแก้กฎกระทรวง เรื่องค่าธรรมเนียมให้ครอบคลุมรูปแบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าจะจูงใจให้ผู้จ่ายค่าผ่านทางด้วยเงินสดหันมาใช้ระบบ M-FLOW มากขึ้นเพราะมีความสะดวก และรวดเร็ว เพียงแค่สมัครยืนยันตัวตนและทะเบียนรถ อย่างไรก็ตาม ระบบ M-FLOW เป็นทางเลือกใหม่ ส่วน ช่องทางเงินสดและช่องทาง M-Pass ยังคงใช้งานได้ตามปกติ