“พาณิชย์” จับวันเดียวเพิ่มถึง 17 ราย กระทำความผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัย ขายแพง และไม่แจ้งการผลิต แจ้งสต๊อก เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ทำยอดจับกุมรวมเพิ่มเป็น 336 ราย
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 15 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มวันเดียวสูงถึง 17 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 3 ราย และต่างจังหวัด 14 ราย รวมผลจับกุมล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 336 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 159 ราย และต่างจังหวัด 177 ราย
การจับกุมในกรุงเทพฯ 3 ราย ได้แก่ ร้านขายยา 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาสีฟ้าบรรจุซองใส 10 ชิ้นต่อแพก ราคาชิ้นละ 25 บาท โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 28 ร้านค้าจำหน่ายทางเฟซบุ๊ก 1 ราย โดยทำการล่อซื้อและจับกุม พบขายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคา 650 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท รวม 8,850 ชิ้น และอีก 1 ราย เป็นร้านค้าทั่วไป บรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 850 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 17 บาท โดยทั้ง 2 รายกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29
ส่วนในต่างจังหวัด 14 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ได้แก่ กระทำความผิดมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จำนวน 7 ราย ได้แก่ จังหวัดสตูล 1 ราย จังหวัดสมุทรสาคร 2 ราย จังหวัดมุกดาหาร 1 ราย (จำหน่ายทางเฟซบุ๊ก) และจังหวัดอุดรธานี 3 ราย (จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก), กระทำความผิดตามมาตรา 25 (5) ข้อหาไม่แจ้งต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ต่อ กกร. เป็นโรงงานผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ในจังหวัดปทุมธานี 1 ราย, กระทำความผิดตามมาตรา 25 จำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย ราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ 1 ราย ราคากล่องละ 890 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 17.80 บาท และร้านค้าทั่วไป 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคากล่องละ 700 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 14 บาท ทั้งหมดอยู่ในจังหวัดอุดรธานี, กระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 650 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท ในจังหวัดอุตรดิตถ์ 1 ราย และกระทำความผิดตามมาตรา 25 และมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ราคากล่องละ 660-780 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13.20-15.60 บาท ในจังหวัดขอนแก่น 2 ราย
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าติดตาม ตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง หากพบขายเกินราคา มีการกักตุนสินค้า หรือเอาเปรียบประชาชน จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยผู้บริโภคที่พบเห็นสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด