“พาณิชย์” เดินหน้าจับผู้กระทำผิดขายหน้ากากอนามัยแพงอย่างต่อเนื่อง จัดการได้อีก 9 ราย มีทั้งขายผ่านไลน์ เฟซบุ๊ก ร้านค้าทั่วไป และโรงงานผลิต โกดังเก็บสินค้า ทำยอดการจับกุมทั้งหมดเป็น 285 ราย
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส.) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 9 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เพิ่มอีก 9 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 4 ราย โดยเป็นการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 665 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13.30 บาท รวม 1,750 ชิ้น และร้านขายยา 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุ 10 ชิ้นต่อแพก ในราคา 200 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท ทั้ง 2 รายกระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร ตามมาตรา 29 และยังจับกุมผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ ได้ 1 ราย ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา ตามมาตรา 28
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตอีก 1 ราย พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา (สีเขียว) จำนวน 300 ชิ้น หน้ากากอนามัยแบบคาร์บอน จำนวน 44,350 ชิ้น และได้เข้าตรวจค้นโกดังจัดเก็บหน้ากากอนามัยบริเวณใกล้เคียงพบหน้ากากอนามัยอีกจำนวน 215,000 ชิ้น ได้ทำการยึดของกลางและแจ้งข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตต่อคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ตามมาตรา 25 (5)
ส่วนในต่างจังหวัด จับกุมได้ 5 ราย ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 1 ราย เป็นร้านค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุม พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคากล่องละ 850 บาท จังหวัดชลบุรี 1 ราย เป็นร้านค้าทั่วไปจำหน่ายหน้ากาอนามัยขนิดกรอง 4 ชั้น ในราคากล่องละ 790 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15.8 บาท ทั้ง 2 รายกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร ตามมาตรา 29 จังหวัดกาฬสินธุ์ 1 ราย เป็นร้านค้าทั่วไป พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา ตามมาตรา 28 จังหวัดสมุทรสงคราม 1 ราย กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคา 120 บาทต่อแพก เฉลี่ยชิ้นละ 12 บาท แจ้งข้อหาจำหน่ายเกินราคาควบคุม ตามมาตรา 25 และจังหวัดเพชรบูรณ์ 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคากล่องละ 760 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15.20 บาท ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 285 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 140 ราย และต่างจังหวัด 145 ราย
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“กระทรวงพาณิชย์จะยังคงเดินหน้าตรวจสอบ และจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ อย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ การตรวจสอบและจับกุมจะตรวจสอบสินค้าอื่นๆ ด้วย หากพบว่ามีการขายแพง มีการกักตุนสินค้า หรือมีการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยผู้บริโภคที่พบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด” นายสุพพัตกล่าว