ในห้วงวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่ทุกภาคส่วนออกมาขอความร่วมมือให้ ‘อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ’ ธุรกิจ
ล้วนแล้วแต่ต้องมีการปรับตัว โดยช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญ และช่วยต่อลมหายใจของผู้ขาย
ในขณะนี้
ทั้งนี้ยังมีข้อมูลจากรายงาน เจเนอเรชั่นซี เอเชียแปซิฟิก (Generation Z: APAC) โดย วันเดอร์แมน ธอมสัน
อินเทลลิเจนซ์ (Wunderman Thompson Intelligence) ที่พบว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z (อายุ 13 – 23 ปี) ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ และเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของประเทศที่มีจำนวนถึง 30 ล้านคนในไทยกว่า 83%
จะหาสินค้าที่มีขายที่หน้าร้านเพื่อให้ได้ทดลองและสัมผัสสินค้าจริงก่อน และหลังจากนั้นจะมาซื้อผ่านทางออนไลน์เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งยังซื้อสินค้าได้ง่าย ประหยัดเวลาและการเดินทางมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นี่จึงเป็นโจทย์และกุญแจดอกสำคัญที่ธุรกิจและร้านค้าต่างๆ จะต้องปรับตัวให้ตรงตาม
ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จและสามารถอยู่รอดได้ในอนาคต ในวันนี้
3 ร้านค้าออนไลน์ยอดนิยม Pumpnom, iHAVECPU และ Bomb Petshop จาก “Lazada Millionaires Club”
จึงได้ร่วมแชร์แนวคิดว่า ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในการขายสินค้าออนไลน์? ทำอย่างไรยอดขายจึงจะ
ก้าวกระโดด? โกยรายได้หลักล้านบาทภายใน 1 วันเป็นไปได้จริงไหม?
เริ่มต้นจาก คุณดิว - สราญภัทร์ จ่ายสรรคโภชน์ กรรมการ บริษัท อธีราห์ คอเปอเรชั่น จำกัด เจ้าของร้าน Pumpnom สาวร่างเล็กหัวใจแม่ (ค้า) ออนไลน์ ที่สามารถปั้นยอดขายในแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมาของลาซาด้า ได้ถึง 4 - 5 ล้านบาท หรือกว่า 3,000 ออเดอร์ภายใน 1 วัน โดยเธอได้เริ่มทำธุรกิจขายสินค้าแม่และเด็กบนช่องทางออนไลน์มายาวนานกว่า 10 ปี เพราะเธอเชื่อว่าการเปิดร้านค้าบนออนไลน์จะเป็นที่รู้จักและมีตลาดที่กว้างกว่า
การเปิดหน้าร้าน เริ่มต้นจากการเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าแม่และเด็กเป็นของตนเอง ตามด้วยเฟซบุ๊คแฟนเพจ
และขยับขยายไปบนแพลตฟอร์มลาซาด้าเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยความเข้าใจอินไซต์ของคนเป็นแม่ที่ไม่มีเวลาออกไป
ซื้อของ ทั้งยังต้องการคำปรึกษาจากร้านค้าและต้องการรับสินค้าอย่างรวดเร็วหรือทันที เธอเล็งเห็นถึงความสำคัญ
ในส่วนนี้จึงเตรียมทีมงานคอยตอบข้อความลูกค้าทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึงเที่ยงคืน และยังมีบริการจัดส่งสินค้า
อย่างรวดเร็วผ่านแมสเซนเจอร์ของทางร้าน ทำให้ร้าน Pumpnom สามารถมัดใจลูกค้ากลุ่มคุณแม่ได้อยู่หมัด จนเป็น
ที่แนะนำต่อๆ กัน
“การเข้าใจอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และคอยอัปเดตเทรนด์สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้ และยิ่งไปกว่านั้นหากเรามีช่องทางการจำหน่าย
ที่มีประสิทธิภาพและช่วยสนับสนุนเราเป็นอย่างดีอย่างลาซาด้า ที่มีเครื่องมือและฟังก์ชั่นครบครันแล้ว หากเราคว้าสิ่งที่มีอยู่รอบๆ ตัว และลองเปิดใจใช้ทุกอย่างที่เขามีให้ เชื่อได้เลยว่า ธุรกิจของเราจะยิ่ง
กว้างขึ้น และสามารถต่อยอดความสำเร็จได้แบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน”
ทางด้าน คุณเปา - พีรดนย์ เหมยากร เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้าน iHAVECPU จากคนขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มือสองบนเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ Overclockzone และตามเว็บไซต์ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย
สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจคอมพิวเตอร์บนช่องทางออนไลน์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 6 – 7 เท่าภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่งจากการลงขายสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยเฉพาะช่วงที่มีจัดแคมเปญอย่าง 12.12 ยอดขายของร้านพุ่งถึง
4.5 ล้านบาท หรือนับเป็นคอมพิวเตอร์ประกอบกว่า 500 เครื่อง! ทุกวันนี้ลาซาด้าจึงกลายเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ
ของ iHAVECPU เป็นเสมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
“การขายคอมพิวเตอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่มีหน้าร้านเลยก็สามารถประสบความสำเร็จ
ทางธุรกิจได้ ด้วยการสร้างความแตกต่าง เราจะต้องไม่ใช่แค่ขายของ แต่ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ
ให้มีความน่าสนใจและสร้างความเป็นกันเอง ใกล้ชิดกับลูกค้า ด้วยความต่างนี้จึงทำให้ ร้าน iHAVECPU
มีผู้ติดตามในแฟนเพจกว่า 5 แสนราย และผู้ติดตามในลาซาด้าเฉียด 8 หมื่นราย”
ปิดท้ายกับ คุณบอมบ์ - เอกนัย ตีรณธาดา ผู้จัดการฝ่ายขายร้าน Bomb Petshop ร้านขายอาหารและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงยอดฮิต ที่เริ่มต้นขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากว่า 6 ปี จากการนำสินค้าที่มีอยู่หน้าร้าน จังหวัดระยอง มาลงขายบนเว็บไซต์ของตนเอง เพื่อขยายช่องทางในการขายสินค้า แต่ก็ขายไม่ดีนัก เพราะแต่ก่อนลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จักเว็บไซต์ของร้าน และยังไม่นิยมซื้อของออนไลน์กัน หลังจากนั้นคุณบอมบ์ได้รู้จักกับแพลตฟอร์มลาซาด้า จึงได้ลองลงขายสินค้า จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าและทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นเกินคาด โดยเฉพาะช่วงที่มีเมกะแคมเปญ 11.11 สามารถทำยอดขายสินค้าได้มากกว่าปกติถึง 25 เท่า หรือเป็นจำนวนเงินถึง 8 หลัก
“การขายสินค้าออนไลน์ ไม่ได้ทำให้ยอดขายของออฟไลน์ลดลง ถ้าหากเราเข้าใจกลุ่มลูกค้าในแต่ละช่องทาง ว่าลูกค้าต้องการสินค้าประเภทไหน ควรจัดโปรโมชั่นอย่างไรให้แตกต่างกับการขายออนไลน์ แต่คงประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน เพราะลูกค้าในปัจจุบันมักจะเปรียบเทียบสินค้าจากทั้งช่องทางออนไลน์
และออฟไลน์ โดยลูกค้าจะเลือกซื้อผ่านช่องทางที่ลูกค้าพึงพอใจและคุ้มค่ามากที่สุด”
จะเห็นได้ว่า การทำธุรกิจออนไลน์ ใครก็สามารถทำได้ เพียงแค่เริ่มลงมือทำ คอยอัปเดตเทรนด์สินค้า
และความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ มีความเข้าใจกลุ่มลูกค้าในแต่ละช่องทางการขาย และเลือกแพลตฟอร์ม
ในการขายที่จะทำให้ธุรกิจของเราไปได้ไกล และประสบความสำเร็จได้มากที่สุด อย่างแพลตฟอร์มลาซาด้า
ที่มีการซัพพอร์ตร้านค้าอย่างครบครันและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นคอร์สอบรมการขายสินค้าสินค้าออนไลน์
ผ่าน Lazada University, การใช้เครื่องมือต่างๆ ในการขายสินค้าบนลาซาด้า และแคมเปญต่างๆ ที่ลาซาด้า
จัดอยู่ตลอด อย่างเมกะแคมเปญล่าสุด ฉลองวันเกิดลาซาด้าครบรอบ 8 ปี “Lazada 8th Birthday Sale” ที่วันที่ 27 มีนาคมนี้ ลาซาด้าสนับสนุนให้ชาวไทยช้อปอยู่บ้าน พร้อมมอบดีลดีๆ ส่งตรงให้ถึงที่
ยกขบวนสินค้าจัดโปรลดสูงสุดถึง 90%, แฟลชเซลเริ่มที่ 8 บาท และยังลดค่าจัดส่งให้อีกด้วย ค่าจัดส่งภายในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เริ่มต้นที่ 20 บาท และต่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 25 บาท ซึ่งนอกจากจะเป็น
การมอบบริการและข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการขายให้กับร้านค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้าอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้หากผู้ประกอบการสามารถคว้าโอกาส และใช้สิ่งที่มีอยู่รอบๆ ตัวมาเริ่มลงมือทำแล้วล่ะก็ ความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน!
