“แสนสิริ” เผยผลวิจัยชี้พฤติกรรมผู้บริโภคใช้อินเทอร์เนต 10 ชั่วโมงต่อวัน ซื้อสินค้าและบริการสูงถึง 51.3% ติดอันดับใน 5 ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ พร้อมเดินหน้ารุกตลาดออนไลน์เต็มสูบหวังขยายช่องทางขายเพิ่ม ตั้งเป้าอนาคตยอดขายออนไลน์แชร์ยอดขายรวม 30% ล่าสุด เตรียมขนทัพโครงการคอนโดฯ พร้อมอยู่ทุกเซกเมนต์เข้าแพลตฟอร์ม เริ่ม 28 มี.ค.นี้ หลังประสบความสำเร็จจากแคมเปญ “โปรลื่นปรื๊ด” สร้างยอดขาย 4,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 40% เชื่อดีมานด์ในตลาดยังมีสูง
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียมแบบ Online Pre-Sale 24 ชั่วโมงอย่างเต็มรูปแบบ ซี่งเป็นการต่อยอดจาก Sansiri 24 Online Booking โดยจะนำร่องที่โครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค บนพื้นที่ศักยภาพ NEW CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังได้นำห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่กว่า 10 โครงการมาร่วม Sansiri 24 Online Booking พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษลุ้นรับรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท โดยในงานพรีเซลครั้งนี้ แสนสิริตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายกว่า 50% ของมูลค่าโครงการรวม เดอะไลน์ พหลโยธิน ปาร์ค
“แสนสิริ เป็นรายแรกในวงการอสังหาฯ ที่นำเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามาทำการตลาด เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า โดยในปี 52 ได้ริเริ่มนำ Digital Sales Kit มาใช้เป็นมิติใหม่ของการขายที่อยู่อาศัย รวมถึงพัฒนา Home Service Application ขึ้น และยังขยายฐานการตลาดเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ สู่แพลตฟอร์มอื่นเป็นรายแรก โดยร่วมกับลาซาด้า เปิด “แสนสิริ ออฟฟิเชียล สโตร์ บน LazMall” ที่ปัจจุบันสร้างยอดขายแล้วกว่า 100 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ แสนสิริ ได้เปิดบริการ Online Booking สำหรับลูกค้าที่สนใจจองโครงการเป็นรอบพิเศษที่ทำควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดโปรโมชันและราคาที่ดึงดูดเปิดการขายผ่านช่องทางออนไลน์มาแล้วหลายโครงการ เช่น kawa HAUS, oka HAUS, EDGE Central Pattaya และ THE BASE Phetkasem โดยทุกโครงการมียอดจองมากกว่า 90% ของจำนวนที่เปิดจอง
“เราเห็นดีมานด์ของตลาดที่ยังมีอยู่สูง จากจำนวนลูกค้าที่ให้ความสนใจและเข้ามาชมโครงการพร้อมอยู่ และการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงความสำเร็จจากแคมเปญล่าสุด “โปรลื่นปรื๊ด” ได้สร้างยอดขายทะลุเป้ากว่า 4,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 3,000 ล้านบาท ถึง 40% จากยอดขายรวมทั้งหมดของแสนสิริ”
ล่าสุด แสนสิริได้เปิดตัว “Sansiri 24 Online Booking” มอบประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้ายุคดิจิทัล โดยสามารถเลือกซื้อโครงการคุณภาพพร้อมอยู่ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง สะดวก ง่าย ปลอดภัย และคุ้มค่า ด้วยระบบติดต่อและรับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาการขาย Online Agent ผ่าน Live Chat หรือ VDO Call รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ ระบบธุรกรรมการเงิน ที่สามารถชำระเงินจองผ่านบัตรเครดิตที่มีความปลอดภัยสูง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
สำหรับโครงการ เดอะไลน์ พหลโยธิน พาร์ค โครงการร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และบีทีเอส กรุ๊ป ราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิด “Green Condominium” พร้อมสวนสีเขียวบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่ บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว โดยมีแนวคิดหลักที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมถึง 4 ด้าน คือ 1.Green Innovation นำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง 2.Green Material ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3.Green Residential Unit ออกแบบพื้นที่พักอาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน และดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย 4.Green ECO-Planting ปลูกพรรณไม้เพื่อดูดซับมลพิษและลดความร้อน
น.ส.สุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เป็นโซนที่น่าสนใจ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้ง BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT) เป็นแหล่งรวมสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง และใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 3 สวน คือ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
“ด้านราคาที่ดินในบริเวณ BTS ห้าแยกลาดพร้าว มีการปรับตัวขึ้นถึง 10% ต่อปี จากความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยหากพิจารณาในส่วนของภาพตลาดการขายคอนโดมิเนียม พบว่า ในทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว มียอดตอบรับเฉลี่ยอยู่ที่ 57% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาพรวมพื้นที่กรุงเทพฯ (42%) โดยกลุ่มเซกเมนต์ที่ได้รับความสนใจจะเป็นกลุ่มคอนโดฯ ในระดับราคา 80,000-130,000 บาทต่อตร.ม. ที่มียอดตอบรับสูงถึง 60% ด้านผลตอบแทนการลงทุน พบว่ามีผลตอบแทนการขายต่อ (Capital Gain) 4% และผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) 5% ต่อปี จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับทั้งเรียลดีมานด์และการลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ จุดเด่นของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่เราดูแลในส่วนของบริการหลังการขายต่อจากแสนสิริ โดยส่งมอบบริการแก่ลูกบ้านให้ได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด ทั้งในด้านการดูแลความปลอดภัย ตลอดจนดูแลโครงการให้มีสภาพดี น่าอยู่ จึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”
“ทั้งนี้ เซลแกลเลอรีของแสนสิริยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยลูกค้าสามารถเข้ามาชมได้ทุกโครงการ พร้อมสร้างความมั่นใจกับมาตรการป้องกันและดูแลในภาวะเฝ้าระวังสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสุงสุด”
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียมแบบ Online Pre-Sale 24 ชั่วโมงอย่างเต็มรูปแบบ ซี่งเป็นการต่อยอดจาก Sansiri 24 Online Booking โดยจะนำร่องที่โครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค บนพื้นที่ศักยภาพ NEW CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังได้นำห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่กว่า 10 โครงการมาร่วม Sansiri 24 Online Booking พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษลุ้นรับรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท โดยในงานพรีเซลครั้งนี้ แสนสิริตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายกว่า 50% ของมูลค่าโครงการรวม เดอะไลน์ พหลโยธิน ปาร์ค
“แสนสิริ เป็นรายแรกในวงการอสังหาฯ ที่นำเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามาทำการตลาด เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า โดยในปี 52 ได้ริเริ่มนำ Digital Sales Kit มาใช้เป็นมิติใหม่ของการขายที่อยู่อาศัย รวมถึงพัฒนา Home Service Application ขึ้น และยังขยายฐานการตลาดเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ สู่แพลตฟอร์มอื่นเป็นรายแรก โดยร่วมกับลาซาด้า เปิด “แสนสิริ ออฟฟิเชียล สโตร์ บน LazMall” ที่ปัจจุบันสร้างยอดขายแล้วกว่า 100 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ แสนสิริ ได้เปิดบริการ Online Booking สำหรับลูกค้าที่สนใจจองโครงการเป็นรอบพิเศษที่ทำควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดโปรโมชันและราคาที่ดึงดูดเปิดการขายผ่านช่องทางออนไลน์มาแล้วหลายโครงการ เช่น kawa HAUS, oka HAUS, EDGE Central Pattaya และ THE BASE Phetkasem โดยทุกโครงการมียอดจองมากกว่า 90% ของจำนวนที่เปิดจอง
“เราเห็นดีมานด์ของตลาดที่ยังมีอยู่สูง จากจำนวนลูกค้าที่ให้ความสนใจและเข้ามาชมโครงการพร้อมอยู่ และการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงความสำเร็จจากแคมเปญล่าสุด “โปรลื่นปรื๊ด” ได้สร้างยอดขายทะลุเป้ากว่า 4,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 3,000 ล้านบาท ถึง 40% จากยอดขายรวมทั้งหมดของแสนสิริ”
ล่าสุด แสนสิริได้เปิดตัว “Sansiri 24 Online Booking” มอบประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้ายุคดิจิทัล โดยสามารถเลือกซื้อโครงการคุณภาพพร้อมอยู่ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง สะดวก ง่าย ปลอดภัย และคุ้มค่า ด้วยระบบติดต่อและรับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาการขาย Online Agent ผ่าน Live Chat หรือ VDO Call รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ ระบบธุรกรรมการเงิน ที่สามารถชำระเงินจองผ่านบัตรเครดิตที่มีความปลอดภัยสูง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
สำหรับโครงการ เดอะไลน์ พหลโยธิน พาร์ค โครงการร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และบีทีเอส กรุ๊ป ราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิด “Green Condominium” พร้อมสวนสีเขียวบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่ บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว โดยมีแนวคิดหลักที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมถึง 4 ด้าน คือ 1.Green Innovation นำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง 2.Green Material ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3.Green Residential Unit ออกแบบพื้นที่พักอาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน และดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย 4.Green ECO-Planting ปลูกพรรณไม้เพื่อดูดซับมลพิษและลดความร้อน
“สำหรับโครงการนำร่องเดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ที่จะเปิด 24 Hrs. Pre-Sale Online Booking ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ เราได้จัดโปรโมชันพิเศษจองเพียง 1,999 บาท รับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท และ iPhone 11 Pro 1 เครื่องทุกยูนิต นอกจากนี้ เรายังขนทัพโครงการพร้อมอยู่ 10 โครงการใน 10 สุดยอดทำเล ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อและชมโครงการได้ทาง Sansiri 24 Online Booking พร้อมโปรโมชันพิเศษลุ้นรับส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท”
น.ส.สุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เป็นโซนที่น่าสนใจ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้ง BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT) เป็นแหล่งรวมสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง และใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 3 สวน คือ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
“ด้านราคาที่ดินในบริเวณ BTS ห้าแยกลาดพร้าว มีการปรับตัวขึ้นถึง 10% ต่อปี จากความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยหากพิจารณาในส่วนของภาพตลาดการขายคอนโดมิเนียม พบว่า ในทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว มียอดตอบรับเฉลี่ยอยู่ที่ 57% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาพรวมพื้นที่กรุงเทพฯ (42%) โดยกลุ่มเซกเมนต์ที่ได้รับความสนใจจะเป็นกลุ่มคอนโดฯ ในระดับราคา 80,000-130,000 บาทต่อตร.ม. ที่มียอดตอบรับสูงถึง 60% ด้านผลตอบแทนการลงทุน พบว่ามีผลตอบแทนการขายต่อ (Capital Gain) 4% และผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) 5% ต่อปี จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับทั้งเรียลดีมานด์และการลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ จุดเด่นของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่เราดูแลในส่วนของบริการหลังการขายต่อจากแสนสิริ โดยส่งมอบบริการแก่ลูกบ้านให้ได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด ทั้งในด้านการดูแลความปลอดภัย ตลอดจนดูแลโครงการให้มีสภาพดี น่าอยู่ จึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”
“ทั้งนี้ เซลแกลเลอรีของแสนสิริยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยลูกค้าสามารถเข้ามาชมได้ทุกโครงการ พร้อมสร้างความมั่นใจกับมาตรการป้องกันและดูแลในภาวะเฝ้าระวังสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสุงสุด”
