ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดชอปปิ้งคืนเงินมาแรง หลายรายจ่อเข้าตลาดเพิ่มอีก ด้าน ShopBack เร่งขยายบริการเพิ่ม รับไทยเป็นตลาดดาวรุ่งที่สำคัญ อัดงบสร้างแบรนด์ เพิ่มพันธมิตร จ่อสรุป ไลน์แมน เร็วๆ นี้ ดันเป้าสมาชิกปีนี้ 1.5 ล้านราย
นายกวิน ประชานุกูล ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ที่สิงคโปร์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ชอปปิ้งคืนเงิน เปิดเผยว่า ธุรกิจการให้บริการชอปปิ้งคืนเงินในไทยเริ่มเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ก็ตาม เพราะเริ่มมีผู้ให้บริการรายใหม่ๆ ใหญ่ๆ จะเข้าสู่ตลาดเพิ่มอีก จากปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาดประเทศไทยประมาณ 4-5 รายแล้ว ทั้งแบรนด์ของต่างประเทศและของคนไทยเอง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตอีกมาก สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ
สำหรับแผนของ ShopBack ปีนี้ (2561) จะขยายธุรกิจต่อเนื่อง หลังจากที่ดำเนินธุรกิจในไทยมาแล้ว 1 ปี ได้รับการตอบรับอย่างดี อีกทั้งบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ก็มองประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นดาวรุ่งซึ่งมีการเติบโตเร็วและสูงมากเมื่อเทียบกับธุรกิจในเครือในประเทศอื่น เช่นที่สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และล่าสุดไม่นานนี้เพิ่งเปิดที่ไต้หวัน กับออสเตรเลีย
นายกวินกล่าวว่า แผนงานของปีนี้ตั้งเป้าที่จะใช้งบเพื่อทำการตลาดมากขึ้น ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การจัดกิจกรรม การทำโปรโมชัน การลงทุนทางด้านแบ็กออฟฟิศต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งแม้ว่าที่ผ่านมาธุรกิจของเราจะเติบโตดีก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่ายังมีคนไทยอีกมากที่อาจจะยังไม่รู้จักแบรนด์ ShopBack และธุรกิจชอปปิ้งรับเงินคืนว่าเป็นอย่างไร
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณสมาชิกเป็น 1.5 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5 แสนรายหรือเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว โดยมีปริมาณการซื้อสินค้าต่อบิลจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 บาท เพิ่มปริมาณพาร์ตเนอร์ร้านค้าออนไลน์อีก จากปัจจุบันที่มีประมาณ 130 ราย ทั้งพันธมิตรที่อยู่ในไทยและพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อบริการลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งการขยายกลุ่มบริการใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น และตั้งเป้าหมายเพิ่มมาร์จิ้นด้วย
นายกวินกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันธุรกิจการจัดส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันมีการเติบโตอย่างมาก มีผู้ประกอบการจำนวนมากเข้าสู่ตลาดนี้ ซึ่งทาง ShopBack เองก็มองเห็นโอกาสตลาดนี้เช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรใหม่เพิ่ม เช่น ไลน์แมน ที่จะส่งอาหารตามออเดอร์ รวมทั้งร้านอาหารที่บริการดีลิเวอรีเองด้วย จากเดิมที่เริ่มมีบริการแล้วเช่นกัน เช่น ฮันเนสท์บี อีททิโก หรืออูเบอร์อีทแต่ปัจจุบันเลิกดำเนินการ เป็นต้น
สำหรับช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณลูกค้าเข้าชมรายการสินค้าเฉลี่ยมากถึง 5 แสนราย จากจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอปฯ ที่มีมากกว่านี้ และมีปริมาณการซื้อสินค้าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อบิลต่อคน สัดส่วนผู้ใช้บริการ เป็นผู้หญิง 60% และเป็นผู้ชาย 40% มีอัตราการใช้บริการซื้อสินค้าซ้ำ 50% โดยมียอดคืนเงินลูกค้าสูงที่สุดที่ผ่านมาอยู่ที่ 30% ต่อราย และมีปริมาณเงินที่คืนให้แก่ลูกค้ารวมแล้วมากกว่า 22 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่มีผู้ใช้บริการซื้อมากที่สุดคือ การซื้อสินค้าแฟชั่นผ่านทางออนไลน์ และการซื้อบริการการเดินทางท่องเที่ยว จากกลุ่มบริการที่บริษัทฯ มี 4 กลุ่ม คือ 1. ชอปปิ้งออนไลน์ มีพันธมิตรหลากหลาย เช่น ลาซาด้า ชอปปี้ อาลีเอ็กซ์เพรส อีเบย์ และร้านค้าออนไลน์ทั่วไป เป็นต้น 2. กลุ่มแฟชั่นแบรนด์เนมต่างๆ พันธมิตร เช่น โพเมโล ลุกซี่ เป็นต้น 3. กลุ่มการเดินทางท่องเที่ยว พันธมิตร เช่น เอ็กซ์พีเดีย อะโกด้า เป็นต้น และ 4. กลุ่มไลฟ์สไตล์ทั่วไป เช่น การบริการเรียกแท็กซี่ เช่น แกรบ เป็นต้น โดยมีจำนวนพันธมิตรและร้านค้าให้บริการมากกว่าคู่แข่ง รวมทั้งปริมาณเงินที่คืนให้แก่ลูกค้าก็มากที่สุดในตลาดด้วย
ล่าสุดจัดงานครบรอบ 1 ปี ShopBack Birthday ชอป กิน เที่ยว ได้เงินคืน วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ที่สยามสแควร์วัน มอบสิทธิพิเศษต่างๆ พร้อมราคาสินค้าพิเศษมาบริการ