ไพรซ์ซ่า เผยสถานการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซ พบรายการสินค้าข้ามพรมแดนโตพุ่ง หลังยักษ์อีคอมเมิร์ซต่างชาติบุกตลาด คาดครึ่งปีหลังมาร์เกตเพลซแข่งดุ แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัว เพิ่มกลยุทธ์สร้างจุดขาย ผนึกพันธมิตรธนาคารต่อยอด Priceza Money อำนวยความสะดวกผู้ซื้อ ติดเครื่องบุกตลาดอินโดนีเซีย หวังชิงเค้ก 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "Priceza" เครื่องมือค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา (Shopping Search Engine) อันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลสถิติเชิงลึกของไพรซ์ซ่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ว่า มีผู้เข้าเยี่ยมชมไพรซ์ซ่าผ่านทั้งเว็บไซต์และแอปฯ กว่า 70 ล้านครั้ง ขณะนี้จำนวนสินค้าบนแพลตฟอร์มของไพรซ์ซ่าเติบโตขึ้น 28% จากจำนวน 28 ล้านชิ้น ในช่วงปี 2560 เป็นจำนวน 36 ล้านชิ้นในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนสินค้าเหล่านี้เติบโตขึ้น มาจากการเติบโตของกลุ่มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน หรือ Cross border ทำให้การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีฐานข้อมูลสินค้าประเภทนี้บนแพลตฟอร์มไพรซ์ซ่า 17 ล้านชิ้น หรือคิดเป็น 47% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด
“ช่วงครึ่งปีหลังมาร์เกตเพลซจะยิ่งมีแนวโน้มแข่งขันกันดุเดือดขึ้น เพราะมาร์เกตเพลซรายใหญ่จากต่างชาติเริ่มบุกตลาดหนักขึ้น ขณะเดียวกัน รายที่เคยพักการทำตลาดในไทยก็หวนคืนสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้ง ยังไม่แน่ว่าอาจมีการทำ Cross border เกิดขึ้นเพิ่มเติมหรือไม่ ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจึงจำเป็นต้องปรับตัว เพิ่มกลยุทธ์และจุดขายเพื่อรองรับการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงการแข่งขันกับสินค้าข้ามพรมแดนจากต่างชาติ” นายธนาวัฒน์กล่าว
จากข้อมูลเชิงลึกของไพรซ์ซ่าครึ่งปีแรกยังพบอีกว่ายอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เฉลี่ยอยู่ที่ 1,702 บาทต่อออเดอร์ ผ่านช่องทางเดสก์ท็อป Mobile Web และแอปพลิเคชัน
นายธนาวัฒน์กล่าวอีกว่า เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งมาร์เกตเพลซ ร้านค้า และผู้บริโภคในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้น ไพรซ์ซ่าจึงได้จับมือพันธมิตรธนาคารชั้นนำ นอกจากไพรซ์ซ่าจะช่วยในเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าให้ได้ราคาดีที่สุดแล้ว ไพรซ์ซ่ายังช่วยเรื่องการให้ข้อมูลการชำระเงินผ่านการชอปปิ้งออนไลน์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินที่คุ้มค่าและได้สิทธิพิเศษสูงสุดด้วย
“ที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวบริการ Priceza Money ผ่าน https://money.priceza.com ให้บริการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ด้านการเงินและประกันภัย 3 ด้าน ได้แก่ 1. บริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ มากกว่า 1.6 ล้านแผนประกัน 2. เปรียบเทียบบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำมากกว่า 69 ใบ และ 3. เปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล จากสถาบันการเงินชั้นนำ เพราะเรามองเห็น Pain Point ของผู้คนหลายเรื่อง เช่น การทำประกันภัยรถยนต์ดั้งเดิมใช้เวลานาน และ 90% ของคนขับรถจะรู้สึกไม่สบายใจในการขับเมื่อประกันรถยนต์ขาด เราจึงมองหาแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มของเราให้เชื่อมโยงกับโลกฟินเทค เพื่อแก้ไข Pain Point ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง” นายธนาวัฒน์กล่าว
นายธนาวัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับไพรซ์ซ่าเองนั้น นอกจากประเทศไทยแล้ว เป้าหมายหลักประเทศต่อไปที่จะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คือประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศอินโดนีเซียจะสูงถึง 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.45 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 50% ของมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาค
สำหรับบริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยนายธนาวัฒน์ และกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวม 3 คน เนื่องจากมองเห็นอนาคตในการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงใช้ความรู้ที่เรียนมาพัฒนาเครื่องมือค้นหาสินค้า การบริการเปรียบเทียบข้อมูลและราคาสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งรูปแบบเว็บไซต์ www.priceza.com และแอปพลิเคชันใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานไพรซ์ซ่ากว่า 8 ล้านคนต่อเดือน และมีจำนวนการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 12 ล้านครั้งต่อเดือน