กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดตัวโครงการอบรมออนไลน์ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” ที่มาพร้อม 6 หลักสูตรเด็ดเพื่อเพิ่มทักษะผู้ประกอบการแบบเร่งด่วน 3 เดือน ดีเดย์ครั้งแรก 27 มีนาคมนี้ คาดผู้ประกอบการเข้าร่วมอบรมออนไลน์ 5,000 ราย พร้อมแนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนเร่งปรับการตลาดและขยายช่องทางออนไลน์ (e-commerce) ผ่านออนไลน์มาร์เกตเพลซ เช่น ไทยแลนด์ โพสต์มาร์ท ลาซาด้า ช้อปปี้ อาลีบาบา แอมะซอน และโซเชียลมีเดีย ขานรับวิกฤตโควิด-19 ดันอีคอมเมิร์ซเติบโต 20-50%
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ภายในประเทศไทยส่งผลให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าจากออฟไลน์มาสู่ช่องทางออนไลน์ (e-commerce) มากขึ้น ทำให้ตลาดออนไลน์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 20-50% (ข้อมูล : ลาซาด้า) ดังนั้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนปรับเปลี่ยนมาดำเนินการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อทดแทนในช่วงที่พฤติกรรมของคนไทยชะลอการซื้อผลิตภัณฑ์ตามสถานที่สาธารณะและร้านค้าต่างๆ
กสอ.จึงเตรียมเปิดตัวโครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” คอร์สอบรมบนออนไลน์ไลฟ์สตรีมเป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีด้วยกัน 6 หลักสูตร ได้แก่ 1. ขายสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก (Facebook) 2. ขายสินค้าออนไลน์ผ่านไลน์ (Line) 3. กระตุ้นยอดขายด้วยกูเกิลแอดเวิร์ด (Google Adwords) 4. การขายสินค้าผ่านยูทูป (You Tube) 5. ตอบลูกค้าทันใจ ปิดการขายด้วยแชตบอต (Chat Bot) และ 6. กระตุ้นยอดขายด้วยภาพถ่ายและวิดีโอ ซึ่งการตลาดออนไลน์ (e-commerce) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการตลาดในการสร้างการรับรู้ตราสินค้า การสร้างอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และสร้างยอดขาย โดยในช่วงนี้ตลาดออนไลน์มีอัตราการเติบโตมากกว่าภาวะปกติ
ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ควรดำเนินการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ในเชิงรุก ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย มาร์เกตเพลซ อย่างไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (Thailandpostmart.com) ลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) โซเชียลมีเดียผ่านทางเฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) ไลน์ (Line) ยูทูป (You Tube) หรือกระทั่งบนเว็บไซต์ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หาแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลอัจฉริยะในการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
นายณัฐพลกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลักดันให้ผู้ประกอบการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ประกอบด้วย 1. การขายสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป (Business to Consumer : B2C) ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งการทำตลาดบนแพลตฟอร์มมาร์เกตเพลส ผู้ประกอบการควรวางกลยุทธ์ราคาให้สอดรับกับการแข่งขันด้านราคาผ่านในรูปแบบการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย เพราะราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค พร้อมกับมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ควบคู่กับการให้ความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงการสื่อสารถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Content Marketing) ควรสร้างเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างเหนือคู่แข่ง
และ 2. การจับคู่ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) ระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันเองและผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศผ่านทางอาลีบาบา (Alibaba) และแอมะซอน (Amazon) ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนควรศึกษาตลาดในประเทศนั้นๆ พร้อมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเข้าไปทำตลาด รวมทั้งการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการบริหารจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินการ
ทั้งนี้ กสอ.จะเริ่มเปิดอบรมโครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึง เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะดำเนินการทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 09.00-16.00 น. คาดการณ์มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมอบรมราว 15,000 ราย และนับตั้งแต่ตุลาคม 2562-กันยายน 2563 คาดการณ์มีกลุ่มประกอบการเข้าร่วมอบรมประมาณ 20,000 ราย ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 600 ล้านบาท
“สำหรับโครงการเพิ่มศักยภาพ SMEs ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหนึ่งในภารกิจหลักในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมของ กสอ.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนให้มีความรู้ความสามารถในการนำโซเชียลมีเดียในโลกออนไลน์มาใช้เป็นเครื่องมือประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจ และเป็นการปูพื้นฐานให้แก่ผู้ประกอบการก่อนยกระดับเพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศสู่การเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืนต่อไป” นายณัฐพลกล่าวทิ้งท้าย
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager