xs
xsm
sm
md
lg

กัลฟ์ฯ จี้รัฐออกมาตรการพยุง ศก.รับ COVID-19 “ออกพันธบัตรการันตีเงินเดือนผู้ตกงาน-ลด VAT”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ จี้รัฐออกมาตรการแรงพยุงเศรษฐกิจรองรับผลกระทบ COVID-19 โดยออกพันธบัตรดูดสภาพคล่องเพื่อใช้การันตีเงินเดือนผู้ตกงาน และลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ย้ำวิกฤต COVID-19 รุนแรงกว่าช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 เหตุเอสเอ็มอีและรากหญ้าได้รับผลกระทบ กัลฟ์ฯ มอบเงิน 20 ล้านบาทแก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เครื่อง ECMO) เพื่อผู้ป่วย COVID-19


นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ครั้งนี้จะรุนแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 เนื่องจากผลกระทบ COVID-19 ไปถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ในขณะที่ต้มยำกุ้งส่วนใหญ่กระทบธุรกิจขนาดใหญ่ ดังนั้น ทางรัฐบาลจะต้องมีมาตรการรองรับกระตุ้นโดยใช้ยาแรงเหมือนกับหลายประเทศที่ดำเนินการแล้ว โดยเฉพาะการอัดเงินเข้าระบบ ซึ่งในขณะนี้ประเทศไทยมีสภาพคล่องสูงมาก


รัฐบาลต้องวางแผนใช้ส่วนนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ผู้ประกอบการจะแบกรับภาระได้ 1-2 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็จะขาดภาพคล่อง และอาจมีการปลดพนักงานตามมา ซึ่งจะเป็นภาวะลูกโซ่ในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น ภาครัฐควรหารือและออกมาตรการโดยเร็ว เพราะหากผู้ประกอบการปิดกิจการเป็นจำนวนมากและยาวนานการฟื้นตัวจะยาก


"ภาครัฐต้องเตรียมงานให้ดี อัดยาแรง เพราะจากนี้ไปผลกระทบจะเห็นในวงกว้างจากภาคท่องเที่ยว ภาคขนส่ง เอสเอ็มอี ลงไปจนถึงเกษตรกร แบงก์จะไม่กล้าปล่อยกู้ หนี้ต่างๆ จะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ดังนั้น ภาครัฐต้องดูดสภาพคล่องมาใช้ โดยออกพันธบัตรมาการันตีเงินกู้ที่ขาดสภาพคล่อง การันตีเงินเดือนผู้ตกงานสักครึ่งหนึ่ง รวมไปถึงควรพิจารณานอกจากลดดอกเบี้ยแล้ว ก็ลดภาษี ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม" นายสารัชถ์กล่าว


นายสารัชถ์กล่าวถึงผลกระทบกัลฟ์ฯ จากการระบาด COVID-19 ว่า ธุรกิจไฟฟ้ายังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมยังเดินเครื่องผลิตตามปกติ ขณะที่ออฟฟิศหลายแห่งให้พนักงานทำงานที่บ้าน ก็ทำให้ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนผลกระทบมีเพียงการติดต่อกับต่างชาติที่เข้าทำงานร่วมในด้านต่างๆ ก็ให้เลื่อนระยะเวลาออกไป แต่ก็มั่นใจว่าโครงการลงทุนระยะยาวจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด


ส่วนความคืบหน้าโครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่ม ปตท.ยังเดินหน้าตามแผนงานเดิม ไม่ชะลอการลงทุน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานช่วยเรื่องการจ้างงาน ส่วน โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับภาครัฐ โดยที่กลุ่มผู้ลงทุนเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเพียง 12,000 ล้านบาท จากที่ ครม.กำหนดกรอบผลตอบแทนแก่รัฐ 32,000 ล้านบาทนั้น ในเรื่องนี้ต้องมาดูภาพรวมเพราะการประมูลรอบแรกไม่มีผู้เสนอประมูล การประมูลรอบนี้เป็นการประมูลครั้งที่ 2 ผลตอบแทนก็พิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งในขณะนั้นการส่งออกชะลอตัว เงินบาทแข็งค่า จึงเสนอผลตอบแทนที่ต่ำกว่าที่ภาครัฐกำหนด


วันนี้ (20 มี.ค.) นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มอบเงินสนับสนุนจำนวน 20 ล้านบาทแก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจจำนวน 5 เครื่อง และเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เครื่องเอคโม-ECMO) จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งเครื่อง ECMO มีศักยภาพในการทำงานทดแทนปอดและหัวใจได้ ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ปอดหรือหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือเกิดความผิดปกติขึ้น นับเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญและขาดแคลนท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)


กำลังโหลดความคิดเห็น