xs
xsm
sm
md
lg

คนสตาร์ทอัพจัดทำเพจ “เป็ดไทยสู้ภัย” นำนวัตกรรมสร้างความรู้และคัดกรองต้านภัย COVID-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เริ่มแล้ว!! คนสตาร์ทอัพรวมใจจัดทำเพจ “เป็ดไทยสู้ภัย” หวังนำนวัตกรรมสร้างความรู้และคัดกรองต้านภัย COVID-19

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic)

โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้างไปแล้วใน 158 ประเทศ ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 272 ราย (ล่าสุดวันที่ 19 มีนาคม) และมีรายงานการคาดการณ์การระบาดจากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขว่าอาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า วันที่ 19 มี.ค. มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 60 ราย แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 43 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 12 ราย จำนวนนี้เป็นผู้ชม ญาติ ผู้ดูแลค่ายมวย เจ้าหน้าที่ทำงานสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน และจิตเมืองนนท์ สถานบันเทิง 14 ราย เรียกว่าติดทั้งผับ โดยเป็นทั้งดีเจ พนักงานทำความสะอาด พ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ พิธีกร แคชเชียร์ คนเที่ยว แฟนคนเที่ยว จากย่านทองหล่อ สวนหลวง รามคำแหง และสุขุมวิท สัมผัสกับผู้ป่วยที่รายงานมาก่อนหน้านี้ 12 ราย เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน ภรรยา ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน ลูกเรือสายการบิน แอร์โฮสเตส โดยมีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มเหล้ารับประทานข้าวร่วมวง และร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 5 ราย เป็นชาวไทยจากปัตตานี และยะลา

และ 2. ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 17 ราย คือ เดินทางกลับจากต่างประเทศ 9 ราย โดยมีประวัติไปไต้หวัน ฝรั่งเศส อังกฤษ อินเดีย อิตาลี มาเลเซีย กัมพูชา ญี่ปุ่น เยอรมนี และอิหร่าน บางรายไปมากกว่า 1 ประเทศ ซึ่งมีรายงานจำนวนผู้ป่วยต่อเนื่อง การทำงานใกล้ชิดต่างชาติ 3 ราย เป็นครูพี่เลี้ยง พนักงานเคาน์เตอร์เช็กอิน และเพื่อนต่างชาติมาอาศัยในคอนโดฯ ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัด ต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก 1 ราย เป็นเทรนเนอร์ในสถานที่ออกกำลังกาย และรอผลการสอบสวนโรคเพิ่มเติม 4 ราย โดยจำนวนนี้มีผู้สื่อข่าว 1 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสม 272 ราย กลับบ้าน 42 ราย รักษา 229 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยมีอาการหนัก 3 ราย อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากเหตุการณ์ที่ได้กล่าวมาเราต่างตระหนักถึงการเฝ้าระวัง การคัดกรองโรค และการรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะนี้ และตระหนักถึงความจำเป็นในการตรวจหาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้าง


ขณะที่กลุ่มสตาร์ทอัพไทยรวมตัวกันในนามของสมาคมไทยเทคสตาร์ทอัพ (TTSA) และได้ร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ประชาชน โดยจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผ่าน Facebook page ในชื่อ ‘เป็ดไทยสู้ภัย’ และ Twitter ชื่อแอ็กเคานต์ @Pedthaisuphai

ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมาช่วยแก้ปัญหาสังคม ทั้งการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ช่วยลดภาระการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงช่วยเหลือภาครัฐในการรับมือกับการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 โดยมีขอบเขตและแนวทางการปฏิบัติภารกิจร่วมกัน ดังนี้

1. นำเทคโนโลยีมาร่วมตรวจสอบข่าวเท็จ (Fake news) เพื่อเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อการปฏิบัติตัวและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีสติ ผ่านแอ็กเคานต์ Facebook page ‘เป็ดไทยสู้ภัย’ และ Twitter @Pedthaisuphai

2. ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ด้วย ‘ระบบคัดกรองผู้ป่วย’ ผ่านแบบฟอร์ม ‘การประเมินความเสี่ยงติดไวรัส COVID-19’ โดยประชาชนสามารถเข้าไปทำแบบประเมินอาการขั้นต้นด้วยตนเอง ซึ่งผลการประเมินจะแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 3 ระดับ โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะมีทีมแพทย์อาสาจากสตาร์ทอัพด้าน Health Tech เข้ามาร่วมคัดกรองและให้คำปรึกษาเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ‘Teleconsult’ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรคระหว่างการเดินทาง ลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่สำคัญ บริการนี้จะช่วยให้แพทย์และพยาบาลได้มุ่งรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลอย่างเต็มกำลัง

3. นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้าน Logistic และบริการทางด้าน Healthcare มาร่วมแก้ปัญหาการเดินทาง ด้วยระบบจัด-ส่งยารักษาโรค รวมไปถึงการจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นในระหว่างการกักกันที่บ้านด้วยตัวเองเพื่อเฝ้าระวังติดตามอาการ

4. นำเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพเข้ามาร่วมติดตามผลการรักษาและหาแนวทางช่วยเหลือในขั้นต่อไป

เพื่อบรรลุต่อเจตนารมณ์ภารกิจและการปฏิบัติงานของทีมงาน ‘เป็ดไทยสู้ภัย’ ในการลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทีมงานจึงใคร่ขอเชิญชวนท่าน ในฐานะ ‘สื่อ’ ที่มีความน่าเชื่อถือ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ เพื่อร่วมกันประชาสัมพันธ์กิจกรรมและเผยแพร่ข่าวสารจาก Facbook page ‘เป็ดไทยสู้ภัย’


ในการปฏิบัติงานระยะนี้ ทางทีมงานได้เริ่มดำเนินกิจกรรมไปแล้ว 2 กิจกรรม ได้แก่
1. เปิดรับสมัครแพทย์และพยาบาลจิตอาสา
โดยเปิดโอกาสให้แพทย์และพยาบาลที่ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม สามารถเข้ามาให้คำปรึกษาทางการแพทย์แบบออนไลน์ (Teleconsult) เกี่ยวกับไวรัส COVID-19 โดยแพทย์และพยาบาลที่สนใจจะสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ โดยลงทะเบียนได้ ที่นี่: http://covid19.thaitechstartup.org/

2. ‘ระบบคัดกรองผู้ป่วย’ ผ่านแบบฟอร์ม ‘การประเมินความเสี่ยงติดไวรัส COVID-19’
ซึ่งเป็นแบบประเมินอาการขั้นต้นด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบว่าเราอยู่ในความเสี่ยงที่จะติดไวรัส COVID-19 หรือไม่ โดยผลการประเมินจะแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 3 ระดับ โดยผลลัพธ์ในทุกระดับจะได้รับคำแนะนำและการหาทางออกให้ในทุกระดับความเสี่ยง ซึ่งเบื้องต้นเราจะมีทีมแพทย์และพยาบาลจิตอาสามาร่วมให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีความเสี่ยงผ่านระบบ Teleconsult หากมีอาการเข้าข่าย สามารถสำรวจตัวเองผ่านแบบสำรวจนี้ https://bit.ly/2U9NBLY

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่อัปเดตทุกวัน ผ่านช่องทาง Facebook https://web.facebook.com/pedthaisupai


กำลังโหลดความคิดเห็น