สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 35 ราย จากสนามมวย 13 ราย ผับย่านทองหล่อ 4 ราย ผู้ป่วยสะสม 212 ราย รักษาหายแล้ว 42 ราย มีอาการหนักเพิ่ม 2 ราย ที่สุราษฎร์ธานี และชาวเบลเยียมที่เพชรบูรณ์ ย้ำคนไปสนามมวยวันที่ 6 มี.ค. ผับทองหล่อ 9-10 มี.ค. เฝ้าสังเกตอาการตนเอง มีอาการมาพบแพทย์ทันที
วันนี้ (18 มี.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่ามีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 35 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสัมผัสกับผู้ป่วยเก่าหรือสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 29 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 13 ราย เป็นผู้ชมมวยใน กทม. เชียงใหม่ ขอนแก่น สมุทรปราการ สุโขทัย นครราชสีมา กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด สถานบันเทิง 4 ราย ย่านทองหล่อ และสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 12 ราย และ 2. กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย แบ่งเป็น กลับจากต่างประเทศ 1 ราย คือกลับจากกัมพูชา ทำงานใกล้ชิดต่างชาติ 4 ราย เป็นพนักงานต้อนรับ บริกร และนิติบุคคลคอนโดมิเนียม และรอผลการสอบสวนโรค 1 ราย
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีรักษาหายเพิ่ม 1 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 212 ราย กลับบ้านได้แล้ว 42 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาตัวใน รพ.169 ราย โดยมีอาการหนัก 3 ราย คือ 1.ชายไทยอายุ 49 ปี มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ต่อมาปอดอักเสบ ไตผิดปกติ อยู่หอผู้ป่วยวิกฤต รพ.ใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ล้างไต และรับยาต้านไวรัส 2. ชายชาวเบลเยียมอายุ 67 ปี มาจากเบลเยียมด้วยอาการปอดอักเสบ วิกฤตทางเดินหายใจเฉียบพลัน (ARDS) โดยใส่ท่อช่วยหายใจ และรับยาต้านไวรัสแล้ว ปัจจุบันรักษาตัว รพ.ใน จ.เพชรบูรณ์ และ 3.ผู้ป่วยหนักรายเก่าที่อยู่ในสถาบันบำราศนราดูร อยู่ในความดูแลใกล้ชิด สำหรับผู้กลับมาจากอิตาลีและกักกันฐานทัพเรือสัตหีบ 83 คนนั้น มี 6 คนรับไว้ใน รพ. ตรวจแล้วไม่มีไข้ ผลตรวจแล็บไม่พบเชื้อ กลุ่มนี้เฝ้าระวังสังเกตอาการให้ครบ 14 วัน
“สัปดาห์นี้มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มาจากการคัดกรองครอบคลุมกลุ่มคน และสถานที่ที่มีผู้ป่วย จากการสอบสวนโรค พบว่า รายใหม่เป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ให้ประวัติเดินทางไปประเทศพื้นที่เสี่ยง ไปที่คนแออัด มีกิจกรรมสังสรรค์ หลายคนไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่กักตัวเองอย่างเคร่งครัดเมื่อมาจากพื้นที่เสี่ยง นำมาติดคนในครอบครัว เพื่อนๆ โรคมีความรุนแรงในกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก มีโรคประจำตัว ทำให้การระบาดของโรคในประเทศจะขยายวง นำมาสู่การควบคุมโรคได้ยากลำบาก ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจทำตามคำแนะนำ สธ.อย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างบุคคลในสังคมอย่างน้อย 1 เมตร ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น สวมหน้ากากเมื่อไปที่ชุมชน พกเจลแอลกอฮอล์ มีไข้ไอเจ็บคอ น้ำมูกสวมหน้ากากอนามัยไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติเสี่ยง ใช้ของใช้ส่วนตัว กินอาหารสุกใหม่ แยกสำรับ ใช้ช้อนกลางส่วนตัว คนที่ไปสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน 6 มี.ค. และสถานบันเทิงร้านอาหารยามค่ำคืนวันที่ 9-10 มี.ค. 2563 ช่วงเวลาที่ สธ.พบผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ดังกล่าว กลุ่มคนเหล่านี้ให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน มีไข้ร่วมไอเจ็บคอ น้ำมูก หายใจลำบาก รับการตรวจรักษาสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ฟรี หรือโทร.1422” นพ.สุวรรณชัยกล่าว
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับคนไทยส่วนหนึ่งที่ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่มาเลเซียและเดินทางกลับมา มีผู้เดินทางผ่านช่องทางเข้าออกพรมแดนทางบกจากมาเลเซีย 89 คน อยู่สงขลา สตูล ตรัง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พบป่วย 11 คน ส่งตรวจแล็บทั้งหมดแล้ว เจอโควิด-19 จำนวน 2 คน ติดตามผู้สัมผัสทั้งหลาย โดยติดตามครบ 14 วันแล้ว 52 คน ที่เหลือกำลังติดตามให้ครบ 14 วัน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วย 21 คน เป็นคนไทยประมาณ 70% คนต่างชาติ 30% ส่วนใหญ่ยังเป็นคนจีน ที่เหลือเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรปบางประเทศ ส่วนกรณีสนามมวยที่มีผู้ป่วย 40 คน การหาผู้ป่วยรายแรก ซึ่งคนรวมกันหลายพันคน มีทั้งคนต่างชาติและคนไทยรวมตัว เป็นความยากในการสอบทานข้อมูลหลายแหล่งว่า ใครมีอาการป่วยก่อนวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งแม้จะได้ข้อมูลส่วนหนึ่งแต่ยังสรุปไม่ได้ในทันที เป็นข้อจำกัดในการดูข้อมูลย้อนหลังกลับไป