กรมธุรกิจพลังงานเตรียมถกเคาะกำหนดวันดีเดย์แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานเร็วๆ นี้พร้อมลุ้นเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ยันต้องดูทุกมิติให้สมดุลก่อนประกาศ ด้านสมาคมการค้าและผู้ผลิตเอทานอลฯ รับภัยแล้งกระทบปริมาณเอทานอลส่อตึงตัวแต่ใช้วิธีบริหารจัดการได้
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะหารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงกลั่น ผู้ผลิตและผู้ค้าเอทานอล เพื่อกำหนดให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (เบนซินผสมเอทานอล 20%) เป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศ ตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ที่วางเป้าหมายที่จะประกาศใช้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะอ้อยและมันสำปะหลัง
“คงต้องกำหนดว่าไตรมาส 3 จะเป็นช่วงใด ซึ่งก็จะรวมถึงพิจารณาลดหัวจ่ายชนิดน้ำมันของกลุ่มเบนซินลง 1 ประเภท ล่าสุดสมาคมผู้ค้าปลีกน้ำมันรายย่อยก็ทำหนังสือมาให้มีการลดประเภทลงเพื่อความสะดวกเพราะของไทยมีหัวจ่ายค่อนข้างมาก ซึ่งความเห็นของผู้ค้าก็มีทั้งให้เลิกขายแก๊สโซฮอล์ 91 บางส่วนก็ให้เลิกแก๊สโซฮอล์ 95 แต่ทั้งหมดก็จะต้องมาหารือกัน” น.ส.นันธิกากล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในแง่ของปริมาณเอทานอลที่อาจจะลดลงเนื่องจากผลผลิตอ้อยและมันสำปะหลังที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอลได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งนั้นก็จะต้องพิจารณาร่วมกันถึงปริมาณที่ชัดเจนก่อนที่จะประกาศเดินหน้า รวมถึงการพิจารณาในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันที่ต้องบริหารจัดการน้ำมันเบนซินพื้นฐาน (Gasoline Base หรือ G-Base) ที่ต้องให้สมดุลเพราะโรงกลั่นน้ำมันผลิต G-base 1 หรือน้ำมันพื้นฐานสำหรับผลิตแก๊สโซฮอล์ 91 เป็นส่วนใหญ่ หากยกเลิกขายแก๊สโซฮอล์ 91 โรงกลั่นต้องปรับกระบวนการผลิตให้สอดรับ เป็นต้น
นายพิพัฒน์ สุทธิวิเศษศักดิ์ นายกสมาคมการค้าและผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า ผลผลิตอ้อยฤดูหีบปี 62/63 ที่กำลังทยอยปิดหีบมีแนวโน้มว่าปริมาณอ้อยของไทยจะลดลงจากฤดูหีบปีก่อนหน้าประมาณ 55 ล้านตัน หรือผลผลิตอ้อยจะอยู่ที่ประมาณ 74-75 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณกากน้ำตาล (โมลาส) ที่จะนำมาผลิตเอทานอลลดตามไปด้วย คาดว่าจะมีโมลาสประมาณ 3 ล้านตันจากปีก่อนที่ผลิตรวมได้ 4.6 ล้านตัน ซึ่งหากมีการบริหารจัดการยังเชื่อมั่นว่าจะยังสามารถเดินหน้านโยบายรัฐตามแผนได้
“มองดูเหมือนเอทานอลจะตึงตัว แต่โรงงานน้ำตาลบางส่วนสามารถดึงน้ำตาลทรายดิบมาผลิตได้ ประกอบกับปีนี้มองว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มีแนวโน้มการใช้น้ำมันจะชะลอตัวทำให้เกิดความสมดุลระหว่างซัปพลายกับดีมานด์ได้ ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานก็สามารถใช้กลไก กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาบริหารได้ เช่น หากเกรงว่าเอทานอลจะมีปัญหาก็ไม่ต้องทำให้ราคา E20 จูงใจการใช้ที่มากเกินไปอีกทางหนึ่ง” นายพิพัฒน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ได้มอบหมายให้โรงงานเอทานอลได้ทบทวนแผนการผลิตเพื่อที่จะทำให้เอทานอลไม่ขาดแคลนในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนการเลิกจำหน่ายน้ำมันกลุ่มเบนซินลง 1 ชนิด จากการหารือเบื้องต้นส่วนใหญ่สนับสนุนให้ยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 เพราะปัจจุบันรถ 30% สามารถใช้ E20 ได้หมด ขณะที่ปั๊มน้ำมันเองก็มีจำหน่าย E20 ทั่วประเทศแล้ว
แหล่งข่าวจากผู้ค้าน้ำมันกล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือปริมาณเอทานอลจะเพียงพอหรือไม่ เพราะหากกำหนดนโยบายแล้วเกิดปัญหาจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ประกอบกับสิ่งที่ต้องพิจารณาตามมาคือปริมาณอ้อยในฤดูถัดไปหรือปี 63/64 ซึ่งหากประสบภัยแล้งต่อเนื่องและลดลงอีกจะเกิดปัญหาหรือไม่ด้วยจึงต้องวางสมดุลให้ดี
