กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เกาะติดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19) ใกล้ชิด หลังส่งสัญญาณกระทบท่องเที่ยว คาดทำยอดใช้น้ำมันปี 2563 อาจชะลอตัวกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จะเติบโต 2-3%
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธพ.อยู่ระกว่างการติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่คาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่อยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมในปี 2563 ที่อาจจะชะลอตัวจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะเติบโตระดับ 2-3% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยคาดว่าผลกระทบน่าจะเริ่มเห็นผลต่อปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรวมในเดือน ก.พ.นี้
“ขณะนี้ตัวเลขการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นตัวเลขของเดือน ม.ค. 63 อยู่แต่ตัวเลข ก.พ.จะออกมาในช่วงกลาง มี.ค.ก็น่าจะพอเห็นสัญญาณชัดเจนว่าการใช้อาจลดลงเพราะโควิด-19 กระทบการท่องเที่ยวพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มดีเซล และน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่อาจจะปรับตัวลดลงได้ ซึ่งภาพรวมทั้งปีน่าจะชะลอตัวการใช้อาจจะใกล้เคียงเท่ากับปีที่ผ่านมา” น.ส.นันธิกากล่าว
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือน ม.ค. 63 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ 2562 กลุ่มเบนซินการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 31.8 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.8% โดยพบว่า แก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.6 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 9.3% เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาทต่อลิตร จึงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.02 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 4.5% เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาท/ลิตร จึงท้าให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า แก๊สโซฮออล์ 91 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นอัตราลดลง 3.9% และแก๊สโซฮอล์ อี 85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นอัตราลดลง 1.5%
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 64.1 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
2.5% โดยน้้ามันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 มีการใช้ลดลง 54.3 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 17.1% ดีเซล บี 10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 ล้านลิตรต่อวัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) ดีเซล บี 20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 ล้านลิตรต่อวันวัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561) เป็นต้น
การใช้น้้ามันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 22.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 3.0% เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 16.8 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลงจาก 4.2% โดยปริมาณ การใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.6 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลง 12.7% เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์ บางส่วนหันไปใช้น้้ามันชนิดอื่นแทนเนื่องจากราคาขายปลีกน้้ามันอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก รองลงมาเป็น ภาคปิโตรเคมีมีปริมาณ การใช้ลดลงอยู่ที่ 6.5 ล้าน กก.ต่อวัน คิดเป็นอัตราลดลง 3.2% เป็นต้น
ส่วนการใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.9 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11% โดยมีสาเหตุ
มาจากการปรับราคา NGV ส้าหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมัน ดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ส้าหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้ดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน ส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบ ม.ค. 63 เฉลี่ย 980,741 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นอัตราลดลง 8.5% โดยมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบคิดเป็น 66,973 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและ Emergency Shutdown