น้ำมันดิ่งผลพวง “ไวรัสโคโรนา” ซัสโก้เข้มบริหารสต๊อก

ซัสโก้รับมือภาวะน้ำมันผันผวนหลังราคาน้ำมันดิบดิ่งร่วง 5 วันรวดจากปัญหาโรคไวรัสโคโรนา โดยเร่งบริหารสต๊อกไม่ให้ขาดทุน พร้อมลงทุนขยายสถานีเพิ่มอีก 20 ปั๊มในปีนี้

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ผันผวนนับจากมีปัญหาตะวันออกกลาง ทำให้บริษัทต้องระวังการบริหารสต๊อกน้ำมัน ล่าสุดราคาน้ำมันดิบร่วงติดต่อกัน 5 วันทำการ และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลผลกระทบการระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้บริษัทต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยเพียงใด และจะส่งผลต่อยอดขายน้ำมันมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ บริษัทสนับสนุนนโยบายที่กระทรวงพลังงานเริ่มประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ในไตรมาส 3/2563 เนื่องจากไทยมีน้ำมันมากชนิดเกินไปทำให้เป็นภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยบริษัทจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 มาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แทน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่แล้วราว 120 แห่ง ขณะที่เบนซิน 95 ยังจำหน่ายต่อไป

ส่วนกรณีที่รัฐกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันจำหน่ายน้ำมันดีเซล B10 ให้ครบทุกปั๊มภายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ บริษัทอยู่ระหว่างเร่งขยายการจำหน่ายดีเซล B10 อยู่ควบคู่กับจำหน่ายดีเซล B7 รวมทั้งการจำหน่ายดีเซล B20 ที่มีราคาถูกกว่าดีเซล B10 ลิตรละ 1 บาท โดยดีเซล B10 ราคาถูกกว่าดีเซล B7 อัตรา 2 บาทต่อลิตร ซึ่งการจะปรับเปลี่ยนหรือเลิกจำหน่ายน้ำมันชนิดใดจะพิจารณาถึงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ร่วงลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2562 สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน มี.ค. ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 59.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 62 จากเหตุนักลงทุนกังวลว่าไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ผู้ใช้น้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก จำนวน 10.12 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว