xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวดีตรึง LPG 363 บ./ถัง! ข่าวร้ายรีดเงินคนใช้กลุ่มเบนซินโปะกองทุนน้ำมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ข่าวดี “กบง.” เคาะตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือน 363 บาทต่อถังต่อไปอีกจนกว่าราคาตลาดโลกจะลดลง พร้อมต่อมาตรการลดราคาแอลพีจีช่วยหาบเร่แผงลอยใช้ราคาถูกถึง 31 ธ.ค.นี้ แต่ข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ รีดเงินเข้าและลดชดเชยเข้ากองทุนน้ำมัน 37 สต./ลิตร สะสมเงินไว้ระดับไม่ให้ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท รับมือน้ำมันขาขึ้นช่วงสิ้นปี หวังเตรียมไว้ตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เห็นชอบแนวทางลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน โดยมีมติต่อโครงการรักษาระดับราคาแอลพีจีครัวเรือน ราคา 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ต่อเนื่องจนกว่าระดับราคาแอลพีจีตลาดโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และต่ออายุโครงการลดราคาแอลพีจีให้แก่ผู้ประกอบการอาชีพขายอาหารขนาดเล็ก (หาบเร่ แผงลอย) อยู่ที่ 325 บาทต่อถัง จนถึง 31 ธ.ค. 2561 มีผลตั้งแต่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไป

“แอลพีจีราคา CP Cargo เฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 540 เหรียญสหรัฐต่อตัน ถือว่าสูงขึ้นมาก ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนบัญชีแอลพีจีล่าสุดต้องชดเชยอยู่ที่ 4.03 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) จากเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วชดเชยอยู่ที่ 2.70 บาทต่อ กก. ทำให้เงินบัญชีแอลพีจีล่าสุดเหลือล่าสุด 392 ล้านบาท ขณะที่เงินไหลออก 346 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้น ยอมรับว่าหากราคาแอลพีจีตลาดโลกยังเพิ่มขึ้นอีก เงินจะไม่เพียงพอ ส่วนจะมีวิธีบริหารอย่างไรจะได้ติดตามในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง แต่ภาพรวมประเมินว่าแนวโน้มแอลพีจีตลาดโลกจะลดลงเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศแถบตะวันตก” นายทวารัฐกล่าว

นายทวารัฐกล่าวย้ำว่า ราคาแอลพีจีที่ประกาศเป็นรายสัปดาห์นั้น ยืนยันว่าจะมีผลกระทบน้อยกว่ารายเดือนเพราะรายเดือนราคาจะขึ้นลงค่อนข้างแรงกว่า ส่วนโครงการลดราคาแอลพีจีให้แก่ผู้ประกอบการอาชีพขายอาหารขนาดเล็ก (หาบเร่ แผงลอย) อยู่ที่ 325 บาทต่อถัง จนถึง 31 ธ.ค. 2561 จะมีจำนวนผู้ที่ได้รับประโยชน์ครัวเรือนรายได้น้อย 7,569,867 ครัวเรือน ร้านค้าหาบเร่ 395,544 ร้าน เป็นเงินเดือนละ 49 ล้านบาท ซึ่ง บมจ.ปตท.เป็นผู้ชดเชยส่วนราคานี้

นอกจากนี้ กบง.ยังเห็นชอบการปรับปรุงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ และใช้กลไกการปรับลดการชดเชยควบคู่กับการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 37 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันใหม่เป็น ดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 6.68 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 0.72 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 0.72 บาทต่อลิตร, E20 เป็นอุดหนุนลดลงเหลือ 2.63 บาทต่อลิตร, E85 อุดหนุนลดเหลือ 8.98 บาทต่อหน่วย มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไปซึ่งจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีก

“การสำรองเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ระดับ 30,000 ล้านบาท เพื่อที่จะเตรียมพร้อมรองรับน้ำมันขาขึ้นในช่วงปลายปี โดยเฉพาะดีเซลซึ่งรัฐบาลจะรักษาเสถียรภาพราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเงินกองทุนน้ำมันฯ 30,376 ล้านบาท สามารถตรึงได้ยาวถึงสิ้นปี” นายทวารัฐกล่าว

สำหรับโครงการน้ำมันบี 20 เพื่อลดผลกระทบราคาดีเซลเพิ่มสูง และช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์มซึ่งจะมีราคาจำหน่ายต่ำกว่าดีเซลบี 7 จำนวน 3 บาทต่อลิตรนั้น กบง.เห็นชอบให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล (บี 7) 0.14 บาทต่อลิตร เป็น 5.98 บาทต่อลิตร และเพื่อไม่ให้ผู้ใช้ดีเซลได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีฯ จึงมีมติให้กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคาดีเซล 0.14 บาทต่อลิตร โดยจะมีผลตั้งแต่ ครม.เห็นชอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น