xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”จัดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้ เชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เจรจาซื้อขายกับผู้ประกอบการไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เตรียมจัดโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สดและผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป 4-5 มี.ค.นี้ หาตลาดรองรับผลผลิตผลไม้เป็นการล่วงหน้า เชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศ 50 บริษัท เจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย 75 บริษัท เผยมีแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าร่วมด้วย คาดมีมูลค่าซื้อขายไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท และยังมีการลงนาม MOU ค้าขายอีก 2 ฉบับ มูลค่า 36.5 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมพาลงพื้นที่ดูสวน โรงงานผลิต สร้างความเชื่อมั่น

นายสมเด็จ สุสุมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐทั้งภายในและภายนอกกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมส่งเสริมการเกษตร และหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป จัดโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สดและผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ระหว่างวันที่ 4-5 มี.ค.2563 เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับผลไม้ของไทยในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก และเพื่อให้ผู้ส่งออกได้มีโอกาสในการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งยังทำให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ได้รับรู้ถึงภาพลักษณ์และศักยภาพของไทยในฐานะเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพดี และได้มาตรฐานส่งออก และมีความก้าวหน้าในด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปต่างๆ

โดยรายละเอียดการจัดโครงการ วันที่ 4 มี.ค.2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานเปิดงานการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย ประมาณ 50 บริษัท จากอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป อเมริกา และแอฟริกา กับผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่นๆ กว่า 80 บริษัท ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

ทั้งนี้ ในส่วนของออนไลน์ มีแพลตฟอร์มเข้าร่วมมากถึง 12 แพลตฟอร์ม ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความเชี่ยวชาญในและตลาดที่แตกต่างกัน ได้แก่ Bigbasket.com (อินเดีย) Tmall (จีน) Jatujakmall (ไทย) CloudCommerce (สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย) KlangThai (CLMV) blibli.com (อินโดนีเซีย) JD.com (จีน) Ourshop (AirAsia) (ไทย) The Hub Thailand (ไทย/CLMV) Thailand Post Mart (ไทย) Thaimart (ตะวันออกกลาง) และ Amazon (สิงคโปร์) โดยกรมฯ ได้ตั้งเป้ามูลค่าการเจรจาซื้อขายที่จะเกิดจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ไว้ประมาณ 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังจะมีการลงนามความตกลงทางการค้า ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับคู่ค้าจากต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง และสิงคโปร์ จำนวน 2 ฉบับ รวมมูลค่า 36.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสิงคโปร์ เป็นผลไม้อบแห้ง และฮ่องกง เป็นผลไม้และผักสด เช่น ทุเรียน ส้มโอ มะม่วง ลำไย สละ มะนาว หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน พริก เป็นต้น และยังจะจัดให้มีนิทรรศการสินค้าผลไม้ไทย เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้ผลิตสินค้าผลไม้ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและได้มาตรฐานส่งออกด้วย

ส่วนวันที่ 5 มี.ค.2563 จะเป็นการจัดกิจกรรมเยี่ยมชมสวนผลไม้และสถานประกอบการผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ณ จังหวัดชลบุรี และจันทบุรี เพื่อให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่าย ได้เห็นสถานที่ปลูก สถานที่ผลิต เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับสากล


กำลังโหลดความคิดเห็น