xs
xsm
sm
md
lg

กขค.ออกโรงเตือน หาก BDMS ซื้อหุ้น BH จริงต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ออกโรงเตือนโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ หากจะซื้อหุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จริ ต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ เพราะหลังรวมแล้วจะมีส่วนแบ่งตลาดมาก ทำให้สภาพการแข่งขันในตลาดลดลง และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และในฐานะโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยถึงกรณี บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) จะซื้อหุ้นทั้งหมดของ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ว่า หากมีการดำเนินการเข้าซื้อหลักทรัพย์ของ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตามที่เป็นข่าวจริง จะต้องขออนุญาตจาก กขค.ก่อนดำเนินการ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดเป็นลำดับต้นของประเทศ ซึ่งจะส่งผลทำให้จำนวนผู้แข่งขันและสภาพการแข่งขันในตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งยังจะต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและผู้บริโภคว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดอีกด้วย

“ตามหลักกฎหมายการแข่งขันทางการค้า มีเจตนารมณ์ที่จะมุ่งให้ตลาดมีการแข่งขันมากที่สุด โดยการแข่งขันนั้นจะต้องมีความเป็นธรรมควบคู่กันไปด้วย ในอีกด้านหนึ่งก็จะต้องปกป้องตลาดไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งเข้าไปผูกขาดหรือจำกัดการแข่งขัน หรือทำให้การแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ”

ทั้งนี้ กฎหมายการแข่งขันทางการค้าฉบับปัจจุบัน ได้มีการปรับแก้ไขมาจากฉบับปี พ.ศ. 2542 และมีความชัดเจนในการบังคับใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการรวมธุรกิจ ซึ่งมีการกำหนดไว้ชัดเจนใน 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 หากรวมธุรกิจแล้วทำให้เกิดการผูกขาด หรือมีอำนาจเหนือตลาด (ส่วนแบ่งตลาด 50% ขึ้นไป และมียอดเงินขายรวม 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป) กรณีนี้จะต้องดำเนินการขออนุญาต และได้รับอนุญาตจาก กขค. ก่อน จึงจะสามารทำการรวมธุรกิจได้

กรณีที่ 2 หากร่วมธุรกิจแล้วทำให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญในตลาดใดตลาดหนึ่ง (ส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 50% และมียอดเงินขายรวม 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป) กรณีนี้จะต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจกับ กขค. ภายในระยะเวลา 7 วัน นับจากวันที่รวมธุรกิจเสร็จสิ้น

นอกจากนี้ กขค.ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นๆ ที่กำลังมีแผนการควบรวมธุรกิจหรือเข้าซื้อหุ้นในธุรกิจอื่น ให้ศึกษากฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการกระทำผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้าโดยมิได้ตั้งใจ เพราะหากไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกินร้อยละ 0.5 ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ


กำลังโหลดความคิดเห็น