กกพ. เด้งรับนโยบาย”สมคิด”เกาะติดต้นทุนค่าไฟฟ้าใกล้ชิดหวังตรึงค่าไฟลดภาระค่าครองชีพประชาชนยาวให้ถึงสิ้นปี แย้มมีเงินตุนไว้ดูแลเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่เริ่มใช้ 1 ม.ค. 64
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สกพ.ยังคงติดตามต้นทุนค่าไฟฟ้าใกล้ชิดเพื่อที่จะมุ่งดูแลไม่ให้ค่าไฟฟ้ามีผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายของนายสมคิด จาตุกศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีความเป็นไปได้ที่จะดูแลค่าไฟอีก 2 งวดที่เหลือของปี 2563 ( งวดพ.ค-ส.ค 63และงวดก.ย.-ธ.ค.63)ให้คงอัตราปัจจุบัน เนื่องจากยังมีวงเงินที่ได้จากการลงทุนไม่เป็นไปตามแผนของ 3 การไฟฟ้าเหลืออยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่จะนำมาดูแลค่าไฟฟ้าให้กับภาคประชาชนได้
“ เราก็คงจะต้องมาดูต้นทุนการผลิตไฟเป็นสำคัญซื้อขณะนี้แนวโน้มน่าจะเป็นไปในทิศทางบวกเพราะราคาก๊าซที่เป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตไฟยังต่ำตามราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทำให้การซื้อไฟต่างประเทศถูกลง มีเพียงปัจจัยลบที่จะเสี่ยงจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจากพลังงานน้ำได้ลดลงเพราะภัยแล้งที่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นแต่ภัยแล้งจะไม่มีผลต่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าแต่อย่างใด”นายคมกฤชกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าฐานนั้นกกพ.อยู่ระหว่างการศึกษาคาดว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในช่วงไตรมาส3-4 ปีนี้ และประกาศใช้โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ตั้งแต่ 1 ม.ค.2564 เป็นต้นไป ซึ่งโครงสร้างใหมุ่งที่จะให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทำให้เกิดพฤติกรรมของผู้ใช้ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ เช่น ผู้ผลิตเองใช้เอง(Prosumer)
“ การผลิตไฟเองใช้เองแนวโน้มจะมีมากขึ้นโดยเฉพาะไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หากไม่มีผลกระทบต่อระบบรวมคงไม่มีปัญหาอะไรแต่ถ้าเข้ามาพึ่งระบบไฟฟ้าหลักมากจนกระทบที่คงต้องมีการพิจารณาเรื่องของการคิดค่าบริการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าหลัก ซึ่งในส่วนนี้ อาจจัดเก็บเป็นอัตราส่วนเพิ่ม หรือ ค่าใช้จ่ายดึงความสามารถของระบบไฟใช้ เป็นต้น โดยจะไม่รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าฐาน”นายคมกชฤกล่าว