xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC จับมือ GPSC นำร่องใช้ ESS ขนาดใหญ่สุดในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



PTTGC ร่วมกับ GPSC เปิดใช้งานระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ Smart Energy Storage System ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ต้นแบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ร่วมกับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดใช้งานระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ หรือ Smart Energy Storage System (ESS) ขนาด 1.5 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นระบบการสำรองไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าที่ป้อนให้แก่อาคารสำนักงานและศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีของ PTTGC ในจังหวัดระยอง โดยจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถึง 520,000 หน่วยไฟฟ้า หรือคิดเป็น 8.7% ต่อปี ถือเป็นต้นแบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานของกลุ่ม ปตท. โดยมีแผนในการขยายผลไปสู่สถานประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก เดินหน้าสู่การเป็นองค์กรชั้นนำด้านนวัตกรรมพลังงานของประเทศ

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญในการเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีศักยภาพ การใช้ทรัพยากรแบบหมุนเวียนภายในองค์กร รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างคุ้มค่า สำหรับความสำเร็จในการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ หรือ Smart Energy Storage System (ESS) ที่อาคารสำนักงานและศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Science & Innovation Center) ของ PTTGC ในจังหวัดระยอง ถือเป็นต้นแบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานของกลุ่ม ปตท. โดย ESS จะเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ (Gas Engine) ซึ่งส่งผลให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพสามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของอาคารสำนักงานได้ โดยคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานได้ถึง 520,000 หน่วยไฟฟ้า หรือคิดเป็น 8.7% ต่อปี

“การนำระบบ ESS มาใช้ เป็นการควบคุมการจัดเก็บและการปลดปล่อยพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกักเก็บพลังงานที่เหลือใช้จากระบบผลิตไฟฟ้าจาก (Gas Engine) กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ (MW) ที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในอาคารสำนักงานมากักเก็บไว้ในระบบ ESS ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงก๊าซฯ โดยไฟฟ้าที่กักเก็บไว้ใน ESS ยังสามารถสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ช่วงฉุกเฉินกรณีไฟฟ้าตกหรือดับ ทำให้ระบบผลิตไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงมีความสามารถในการป้อนไฟฟ้าเข้าสู่อาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด และเป็นการบริหารจัดการพลังงานในอาคารฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการนี้ยังจะช่วยเสริม Reliability ของระบบไฟฟ้าหลักได้อีกทางหนึ่ง นับเป็นโครงการที่ช่วยสนับสนุนนโยบายในด้านความยั่งยืน (Sustainability) ในส่วน Smart Operating ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับปรุงกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการการใช้พลังงานและทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการตัวอย่างที่สามารถนำมาใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเสริมประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคง (Reliability) ของระบบไฟฟ้าหลัก รวมไปถึงนโยบายด้านดิจิทัล (Digitalization) โดยการนำข้อมูลมาใช้เพื่อวิเคราะห์ (Data Analytic) ความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลา โดยควบคุมบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลาด้วยระบบควบคุมอัตโนมัติ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนงานที่จะขยายการติดตั้งระบบ ESS ไปยังโรงงานปิโตรเคมีของกลุ่มฯ เพื่อส่งเสริมให้โรงงานมี Reliability ที่ดีต่อไป” ดร.คงกระพันกล่าว

ด้านนายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยถึงความร่วมมือในโครงการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy Storage System : ESS) กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ว่า GPSC ได้ออกแบบและติดตั้ง ESS ให้มีความสามารถในการกักเก็บพลังงานขนาด 1.5 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ซึ่งนับเป็นระบบสำหรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยโครงการนี้มุ่งหมายให้เป็นโครงการต้นแบบการกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูง ดังนั้น ในอนาคตจะมีการขยายการนำ ESS ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในระบบไฟฟ้าให้กับ กลุ่ม ปตท. และผู้สนใจรายอื่นๆ ต่อไป รวมถึงยังสามารถใช้ร่วมกับพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เพื่อให้สามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การดำเนินโครงการร่วมกันของทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันลงทุน โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานร่วมกันที่จะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตและการใช้พลังงานไฟฟ้า สามารถสร้างความมั่นคงในระบบการจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็นหนึ่งในโซลูชันด้านการบริหารจัดการพลังงาน ที่เพิ่มศักยภาพสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร ที่มุ่งไปสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น