“กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ดันขึ้นทะเบียน GI ในจีนและมาเลเซียปีนี้ รวม 5 สินค้า ป้องกันสินค้าที่มีความเสี่ยงโดนละเมิด หลังรับความนิยมจากนักท่องเที่ยว พร้อมลงพื้นที่ช่วง เม.ย.-พ.ค.นี้ ช่วยทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า เป้าหมาย 12 รายการ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เผยยังจะช่วยพัฒนาแพกเกจจิ้งให้โดนใจลูกค้า เป้า 10 รายการด้วย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าที่มีศักยภาพในตลาดต่างประเทศ เพื่อขอรับความคุ้มครองจำนวน 5 รายการ ใน 2 ประเทศ คือ ที่จีน 2 สินค้า ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี และทุเรียนปราจีนบุรี และที่มาเลเซีย 3 สินค้า ได้แก่ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เพราะสินค้าเหล่านี้เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งจีนและมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาในไทย และได้ทดลองบริโภคสินค้า จึงต้องรีบไปขึ้นทะเบียน GI เอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าไทยได้รับผลกระทบจากการที่จะเข้าไปทำตลาดในอนาคต รวมถึงป้องกันการละเมิดที่อาจจะเกิดขึ้น
ปัจจุบันไทยมีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ในต่างประเทศได้แล้ว 7 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่สหภาพยุโรป (อียู) ผ้าไหมยกดอกลำพูน ที่อินเดีย และอินโดนีเซีย เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ที่เวียดนาม และยังมีสินค้า GI ที่รอการพิจารณาขึ้นทะเบียนในต่างประเทศอีก 9 สินค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น 3 สินค้า คือ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น จีน 3 สินค้า คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง เวียดนาม 2 สินค้า คือ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง และกัมพูชา 1 สินค้า คือ กาแฟดอยตุง
นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศในการบริโภคสินค้า GI โดยจะลงพื้นที่เข้าไปช่วยผู้ประกอบการจัดทำระบบควบคุมตรวจสอบคุณภาพสินค้า GI ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2563 แยกเป็นระบบควบคุมภายในจำนวน 8 สินค้าจาก 8 จังหวัด ได้แก่ กาแฟเทพเสด็จ จังหวัดเชียงใหม่, ลิ้นจี่แม่ใจพะเยา, เสื่อจันทบูร จังหวัดจันทบุรี, สับปะรดทองระยอง, ละมุดบ้านใหม่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา, ผ้าไหมเก็บบ้านเมืองหลวง จังหวัดศรีสะเกษ และทุเรียนวงในระนอง และระบบควบคุมภายนอก 4 สินค้า จาก 7 จังหวัด ได้แก่ มะขามหวานเพชรบูรณ์, มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว, ข้าวหอมมะลิสุรินทร์, ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มหาสารคาม และศรีสะเกษ
ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาและยกระดับสินค้า GI ด้วยการพัฒนาบรรุจุภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด มีเป้าหมายจำนวน 10 สินค้า ได้แก่ กล้วยตากพิษณุโลก, ผ้าไหมยกดอกลำพูน, สังคโลกสุโขทัย, ทุเรียนหลินลับแลและทุเรียนหลงลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์, แห้วสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี, มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร, ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี และเนื้อโคขุนโพนยางคำ จังหวัดสกลนคร, ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี และปลากุเลาเค็มตากใบ จังหวัดนราธิวาส