“กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ดันตั้ง “กองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” สำเร็จ มั่นใจช่วยส่งเสริมและพัฒนาสินค้า GI ได้ดีขึ้น คาดปีนี้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ได้ครบทุกจังหวัดแน่ พร้อมเดินหน้าดันรายการใหม่ขึ้นทะเบียน หลังล่าสุดพาณิชย์จังหวัดส่งรายชื่อมาแล้ว 147 สินค้า จาก 50 จังหวัด เล็งนำก่อน 7 รายการ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ขณะนี้กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยได้มีการปรับฐานะงานด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จากเดิมที่มีฐานะเป็นกลุ่มงานอยู่ภายใต้สำนักเครื่องหมายการค้า ปรับฐานะใหม่ขึ้นเป็นกองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เทียบเท่าระดับสำนัก ทำให้ภารกิจของงานด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะมีความคล่องตัวมากขึ้น และขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การปรับหน่วยงานด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นกองดังกล่าวใช้เวลานานถึง 17 ปี ตั้งแต่กรมฯ ดูแลเรื่องสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งผลจากการมีหน่วยงานเฉพาะจะช่วยให้การทำงานเรื่องสินค้า GI ที่เป็นหนึ่งในสินค้าเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญทำได้ดีขึ้น เพราะมีคนทำงานเป็นของตัวเอง ไม่ต้องอยู่ภายใต้สังกัดกองอื่น สามารถตั้งงบประมาณทำงานเองได้ โดยกรมฯ มั่นใจว่าจากนี้ไปงานขับเคลื่อนสินค้า GI จะดีขึ้น และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากด้วยสินค้า GI ก็จะทำได้ดีขึ้นตามไปด้วย
นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังเดินหน้าขึ้นทะเบียนสินค้า GI อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการขึ้นทะเบียน GI ได้แล้ว 75 จังหวัด เหลือเพียง 2 จังหวัด คือ ปทุมธานี และอ่างทอง ที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน GI แต่ในส่วนของจังหวัดปทุมธานี กำลังอยู่ระหว่างการประกาศโฆษณาคำขอขึ้นทะเบียนกล้วยหอมทองปทุม คาดว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนในเร็วๆ นี้ ส่วนจังหวัดอ่างทองได้ยื่นคำขอจดทะเบียน GI สินค้ากลองเอกราช ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและคาดว่าจะได้รับการขึ้นในเร็วๆ นี้เช่นเดียวกัน หาก 2 จังหวัดที่เหลือได้รับการขึ้นทะเบียน GI ก็จะทำให้ 77 จังหวัดของไทยมีสินค้า GI ครบทุกจังหวัด
ขณะเดียวกัน กรมฯ จะเดินหน้าขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ๆ หลังจากล่าสุดได้รับการแจ้งรายชื่อสินค้าที่มีโอกาสขึ้นทะเบียน GI จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเข้ามาแล้วรวม 147 สินค้า จาก 50 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ ผ้าไหม เกษตรแปรรูป หัตถกรรม เครื่องจักรสาน ซึ่งกรมฯ กำลังจะส่งทีมลงพื้นที่ไปประชุมหารือร่วมกับจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียน GI โดยเบื้องต้นมีสินค้าเป้าหมาย 7 สินค้า จาก 6 จังหวัด ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา, พุทราบ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์, มะม่วงหนองแซง และเผือกหอมบ้านหอม จังหวัดสระบุรี มังคุดคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช, มันแกวบรบือ จังหวัดมหาสารคาม และพริกไทยปะเหลียน จังหวัดตรัง