“พาณิชย์” จับมือตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 218 ราย เจอผู้กระทำผิด 10 ราย ทั้งกักตุน โก่งราคา ส่งดำเนินคดีทันที โทษคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนในต่างจังหวัดให้พาณิชย์จังหวัดตรวจเข้มตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปหาข้อเท็จจริงตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งกรณีมีการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ. 2563 รวม 218 ราย พบมีผู้กระทำผิดตามที่มีการร้องเรียนจริง จำนวน 10 ราย ในเขตพื้นที่ลาดกระบัง ประเวศ ราชเทวี บางรัก พญาไท และสัมพันธวงศ์ มีทั้งกรณีที่ผู้ค้าหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกักตุนสินค้า ปั่นราคาขายสูงกว่าความเป็นจริง จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และบางรายมีสินค้า แต่ปฏิเสธการขาย โดยจะขายให้ในราคาที่ต้องการ
“ได้ทำการจับกุมผู้กระทำความผิดทั้ง 10 ราย ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีในกระทงความผิดเกี่ยวกับการสร้างความปั่นป่วนราคาขายให้สูงกว่าความเป็นจริง ในมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว”
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการเป็นกรณีเร่งด่วนให้พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดคณะเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นป่วนราคาขายตามที่มีข้อร้องเรียน และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดอย่างจริงจังและเข้มงวดอีกทางหนึ่งด้วย
