นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วันนี้หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้หน้ากากอนามัย เส้นใยโพลีโพรพิลีน (สปันบอนด์) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมเพิ่มเติม ตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 แล้ว กรมการค้าภายในจะออกคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยสินค้าและบริการ เพื่อกำหนดหลักปฏิบัติโดยทันที เพื่อใช้ควบคุมให้สินค้าชนิดนี้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างเป็นปกติได้ต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปริมาณหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกไปประเทศที่กำลังประสบปัญหาโรคระบาด ทำให้ปริมาณสตอกการใช้หน้ากากอนามัยปกติเฉลี่ยต่อเดือน 30 ล้านชิ้น เพิ่มเป็น 40-50 ล้านชิ้น ซึ่งเกินความจำเป็น ทำให้คนไทยหาซื้อหน้ากากอนามัยในท้องตลาดไม่ได้ และร้านค้าบางร้านบางพื้นที่โก่งราคาจำหน่าย ทำให้ราคาหน้ากากอนามัยสูงขึ้นกว่าปกติมาก ดังนั้น เมื่อดึงสินค้ากลุ่มนี้เข้าอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมอย่างเป็นทางการแล้ว จะทำให้กรมการค้าภายในเข้าไปจัดระบบระเบียบแต่ละช่วงได้สะดวกมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายในเตือนผู้ที่ค้ากำไรเกินควร ฉวยโอกาสโก่งราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและล่อซื้อสินค้าทั้งตามร้านค้าและออนไลน์ หากขายเกินราคาเอาเปรียบมากเกินไปจะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชนใครพบเห็นพฤติกรรมเอาเปรียบแจ้งสายด่วน 1569 ได้ทันที