xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์”ถกทำแผนช่วย SMEs ผู้ประกอบการท้องถิ่น ส่งออกตลาด CLMV

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์”ถก SMEs วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น โอทอปจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก หาทางช่วยส่งออกตลาด CLMV เตรียมใช้ 9 มาตรการเบิกทาง ก่อนลุยต่อช่วยผู้ประกอบการภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น และผู้ผลิตสินค้าโอทอป จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก รวม 82 ราย กับผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ ว่า มีเป้าเพื่อผลักดันให้นักธุรกิจท้องถิ่นมีโอกาสที่จะช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกให้กับประเทศได้มากขึ้น และให้โอกาสกับนักธุรกิจและผู้ประกอบการใหม่ๆ ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจหรือส่งออกให้มีลู่ทางส่งออกต่อไปในอนาคต โดยจะเริ่มต้นจากตลาด มาหารือเพื่อหาลู่ทางเร่งรัดการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ก่อน

โดยเบื้องต้น จะใช้ 9 มาตรการ ได้แก่ 1.มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ช่วยดูกระบวนการส่งออกทั้งระบบ ซึ่งจะมีหลายกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าระบบการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการค้าชายแดนและข้ามแดนยังติดปัญหาอุปสรรคที่เป็นคอขวดอยู่ที่หน่วยงานใดบ้าง และให้นำกลับมารายงานเพื่อหาวิธีขจัดปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นให้เสร็จโดยเร็ว 2.จะร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการส่งออก เพื่อร่วมกันทำโรดโชว์ใน CLMV ทั้ง 4 ประเทศ โดยจะมุ่งเน้นลงลึกไปถึงเมืองที่มีศักยภาพ ไม่เฉพาะเมืองหลวงเท่านั้น อย่างเวียดนาม ไม่ใช่จะไปเฉพาะเมืองโฮจิมินห์ แต่จะไปฮานอย และดานังด้วย 3.เน้นการจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจให้บ่อยขึ้น ทั้งที่ทำในประเทศไทยหรือบริเวณชายแดนและในประเทศ CLMV

4.เร่งรัดการเจรจากับจีนในเรื่องการส่งสินค้า โดยเฉพาะผลไม้ข้ามแดนจากภาคอีสานของไทย เช่น ด่านมุกดาหาร หรือด่านนครพนม เพื่อให้การส่งออกผ่านสปป.ลาวและเวียดนามไปสู่จีนตอนใต้ ให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น 5.จัดคาราวานส่งออกตามแนวชายแดนที่สำคัญ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจท้องถิ่นและสินค้าไทยที่มีศักยภาพที่จะดึงผู้นำเข้าทั้งปลีกและส่งข้ามแดนมาซื้อสินค้าจากไทยไปยังประเทศนั้นๆ ได้สะดวกขึ้น 6.สร้างศูนย์กระจายสินค้าชายแดนและศูนย์กระจายสินค้าข้ามแดน เพื่อความสะดวกในการกระจายสินค้าไทยไปยังประเทศที่ 3 หรือในประเทศนั้นๆ ให้ได้มากขึ้น ขณะนี้หอการค้าไทยได้มีข้อเสนอว่าจุดหนึ่งที่มีศักยภาพ คือ บ่อเต็น โดยกระทรวงพาณิชย์ จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินการ โดยมีหลักการว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปลงทุนแต่จะมีเอกชนเป็นผู้นำ

7.เร่งรัดในการสนับสนุนให้มีการนำสินค้าท้องถิ่นของไทยให้มีโอกาสไปขึ้นแพลตฟอร์มระดับสากลมากขึ้น และจะเร่งรัดความร่วมมือระหว่าง Thaitrade.com ของกระทรวงพาณิชย์ และ Kha-leang.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมอย่างมากในกัมพูชา เป็นต้น และจะขยายต่อไปในอนาคต 8.การส่งเสริมสินค้าโอทอปที่สนามบิน เพื่อส่งไปยัง CLMV ซึ่งจะมีการเจรจากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสินค้าโอทอปไม่จำเป็นต้องหิวขึ้นเครื่องบินไปโดยตรง หากซื้อในปริมาณมาก แต่สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้และจัดส่งตามไปทีหลัง และ9.กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าในการอบรมให้ความรู้กับผู้ส่งออกรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตการสร้างแบรนด์ และการทำตลาดใน CLMV

“มาตรการทั้ง 9 มาตรการ หรือที่เรียกว่ายาแรงทั้ง 9 ขนาน จะช่วยอำนวยความสะดวก ลดอุปสรรค และเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และมูลค่าการค้าผ่านแดนของไทยไปจีนตอนใต้ได้มากขึ้น จากแต่ละปีไทยมีมูลค่าการค้ากับตลาดใน CLMVประมาณ 27,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น โดยหลังจากนี้ จะหารือกับนักธุรกิจในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ เพื่อผลักดันให้มีการส่งออกต่อไป”นายจุรินทร์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น