เชียงราย - รัฐบาล สปป.ลาวยกระดับด่านปางมอน เมืองคอบ แขวงไซยะบุรีเป็นด่านสากล เพื่อให้มีการเชื่อมโยงกับด่านสากลบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา คาดสินค้าจากทั้งสองประเทศจะสามารถเคลื่อนย้ายผ่านด่านพรมแดนดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีกฎหมายภายในประเทศรองรับในการนำเข้า-ส่งออก และเป็นไปตามหลักศุลกากรสากล
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้รัฐบาล สปป.ลาวได้อนุมัติให้ยกระดับด่านประเพณีปางมอน เมืองคอบ แขวงไชยะบุรี ซึ่งตั้งอยู่ติดแม่น้ำโขงฝั่งขวาขึ้นเป็นด่านสากลตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ เพื่อให้มีการเชื่อมโยงกับด่านสากลบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งตั้งอยู่ห่างเข้าไปทางบกประมาณ 42 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทางรัฐบาล สปป.ลาวได้แจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศซึ่งได้เสนอเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว พิจารณาด้วยแล้วเพื่อให้มีผลการปฏิบัติต่อด่านดังกล่าวไปพร้อมๆ กัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในปัจจุบันด่านปางมอนได้มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ในเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมาด่านสากลบ้านฮวกหรือจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก พะเยาของประเทศไทย ได้รับการยกฐานะโดยมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 31 ก.ค. 2561 จากเดิมที่เคยเป็นเพียงจุดผ่อนปรนบ้านฮวกมาแล้ว ทั้งนี้ การยกระดับด่านปางมอนดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ทางการ สปป.ลาว กำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมระหว่างด่านปางมอนไปยังแม่น้ำโขงฝั่งซ้ายที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยสะพานดังกล่าวเชื่อมกับถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีน ที่มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว อยู่แล้ว ดังนั้นสะพานแห่งใหม่ดังกล่าวจึงอยู่ห่างจากสะพานแห่งเดิมประมาณ 100 กิโลเมตร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากการยกระดับด่านปางมอนดังกล่าวแล้ว ในปัจจุบันทางการ สปป.ลาวยังได้มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงกับด่านสากลปางมอนอย่างขนานใหญ่มาโดยตลอด โดยทางสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 1,400 ล้านบาท ก่อสร้างด่านพรมแดนและถนนเชื่อมไปยังจุดผ่านแดนบ้านฮวก ของประเทศไทย
และเชื่อมไปยังเมืองเงิน-เมืองหงสา แขวงไชยะบุรี ตรงข้าม จ.น่าน ของประเทศไทย ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร โดยเมืองหงสาเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินแหล่งใหญ่ และมีเส้นทางเชื่อมไปถึงเมืองหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง ที่เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ การยกระดับด่านปางมอนและการมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่คาดว่าจะทำให้การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาวที่บ้านฮวกคึกคักมากขึ้นหลังจากในปี 2556-2560 ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 1,386 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 180 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าจากไทยไปยัง สปป.ลาว
น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า การยกระดับด่านปางมอนจะทำให้เกิดเส้นทางคมนาคมที่สะดวกมากขึ้นระหว่างไทย-สปป.ลาว เพราะปัจจุบันทาง NEDA และกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้สนับสนุนด้านการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างด่านปางมอนไปยังจุดสำคัญๆ หลายแห่งใน สปป.ลาว ดังกล่าว
โดยเฉพาะไปทางเมืองเงิน-เมืองหงสา รวมทั้งยังมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงไปยังเมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ซึ่งเชื่อมกับถนนอาร์สามเอซึ่งทำให้โอกาสในการส่งออกสินค้าไทยโดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ จะมีโอกาสอย่างมากแน่นอน ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำโขงนั้นเพิ่งก่อสร้างมาได้นานประมาณ 1 ปีคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ กระนั้น ในปัจจุบันก็พบความคึกคักตรงด่านปางมอมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องโดยมียานพาหนะต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา มีพื้นที่เชื่อมต่อกับบ้านปางมอน เมืองคอบ แขวงไซยะบุรี ถือเป็นประตูยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงไทยกับ สปป.ลาว ผ่านเมืองสำคัญทั้งไชยะบุรี อุดมไชย และหลวงพระบาง ด้วยระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตร เป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าการค้า และการลงทุนระหว่างไทยกับ สปป.ลาวได้มากขึ้น
โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากสินค้าและประชาชนจากทั้งสองประเทศจะสามารถเคลื่อนย้ายผ่านด่านพรมแดนดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีกฎหมายภายในประเทศรองรับในการนำเข้า-ส่งออก และเป็นไปตามหลักศุลกากรสากล
ขณะเดียวกัน ถือเป็นฮับในการเชื่อมต่อที่สำคัญของไทยในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นอกจาก สปป.ลาว ยังสามารถเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้ เมืองเชียงรุ้ง และคุนหมิง ผ่านจุดผ่านแดนบ่อเต็น-โมฮัน โดยใช้เส้นทาง R3A และสามารถยกระดับการเชื่อมโยงฝั่งตะวันออกกับเมืองเดียนเบียนฟู และฮานอย ผ่านจุดผ่านแดนเมืองขัว (ขวา)-เดียนเบียนฟู โดยใช้เส้นทาง R2 และมุ่งสู่เมืองฮานอย โดยมีระยะทางที่สั้นกว่าการเดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรเชียงของ จังหวัดเชียงราย และจุดผ่านแดนห้วยโก๋น จังหวัดน่าน
นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยง Supply Chain จากกลุ่มผู้ผลิตในพื้นที่ส่วนกลางของประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ กับ สปป.ลาว ได้ในระยะทางที่ใกล้กว่าจุดผ่านแดนถาวรเชียงของ และห้วยโก๋น เนื่องจากจังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักของภาคเหนือ ทั้งข้าวโพด ลำไย และข้าว ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อด้านการจ้างงานสำหรับแรงงานต่างด้าวชาวลาวที่จะข้ามมารับจ้างเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรทดแทนการขาดแคลนแรงงานในฝั่งไทยได้เป็นอย่างดี และยังถือเป็นประตูสำคัญสำหรับการกระจายสินค้าไทยผ่านการข้ามแดนเข้ามาฝั่งไทยของชาว สปป.ลาว เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดเชียงคำ