“กรมศุลกากร” เผยผลปราบปรามการลักลอกนำเข้าสินค้าเข้าไทยในเดือน ธ.ค.62 มีกว่า 1.6 พันคดี คิดเป็นมูลค่ารวม 102 ล้านบาท โดยนาฬิกาข้อมือ บุหรี่ กระเป๋า ยังมีมูลค่าลักลอบนำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ขณะที่เมทแอมเฟตามีน ถือเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวถึงผลการปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม สำหรับเดือน ธ.ค.62 ว่า กรมศุลกากรได้ตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรได้ทั้งสิ้น 1,633 คดี คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 102 ล้านบาท โดยเป็นจำนวนคดีจากการลักลอบ 30.2% และจากการหลีกเลี่ยงอีก 69.8% ซึ่งมีสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ นาฬิกาข้อมือ บุหรี่ กระเป๋าชนิดต่างๆ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน
ส่วนรายละเอียดของผลงานการตรวจสอบการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมายังประเทศไทยในเดือน ธ.ค.62 กรมศุลกากรได้ตวจสอบผู้โดยสารต้องสงสัยชาวกิเนียน ที่เดินทางมาจากประเทศกินี และมีปลายทางที่กรุงเทพฯ โดยใช้วิธีการกลืนลงท้องโคคาอีน (ยาเสพติดให้โทษประเภท 2) รวม 42 ก้อน น้ำหนัก 575 กรัม ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.275 ล้านบาท นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้ตรวจพบพัสดุต้องสงสัย ณ ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ จำนวน 1 หีบห่อ ต้นทางประเทศสโลวีเนีย สำแดงชนิดของเป็น LED โดยผลการตรวจพบเป็นเม็ดยาสีฟ้าซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Ecstasy) จำนวน 1,010 เม็ด และกัญชาแห้ง จำนวน 285 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในป้ายไฟ LED ทั้งนี้ ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว
ด้านการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรนั้น กรมศุลกากรได้จับกุมรถบรรทุกพ่วงบรรทุกข้าวสารเหนียว จำนวน 660 กระสอบ กระสอบละ 48 กก. ลักลอบหนีศุลกากร บริเวณริมถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท และเจ้าของได้มาทำความตกลงระงับคดีโดยยกของกลางให้เป็นของแผ่นดินเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังได้มีการตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งที่ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พบสินค้าเกษตรประเภทหอมแขกพม่า จำนวน 740 กระสอบ น้ำหนักโดยประมาณ 6 ตัน มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงขณะตรวจค้น รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท และเจ้าของโกดังได้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมระงับคดีกับกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนผลงานในช่วงเดือน ม.ค.63 นั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรี ฝ่ายสืบสวนปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม ยังได้ตรวจค้นรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 11 ตัน และรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 9 ตัน ตามลำดับ โดยได้ยึดผลมะพร้าวปอกเปลือกรวมทั้งสิ้น 20 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 280,000 บาท ทั้งนี้ ลักษณะสินค้าจะมีเมืองกำเนิดในต่างประเทศซึ่งคาดว่าจะมาจากอินโดนีเซีย แต่ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้องมาแสดง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ยังได้เข้าตรวจค้นโกดังสินค้า ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น รองเท้า กระเป๋า ชุดกีฬา ซึ่งมีมูลค่าโดยประมาณกว่า 30 ล้านบาท ส่วนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย จะมีทั้งสิ้น 1.1 ล้านมวน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 11 ล้านบาท โฆษกกระมศุลกากร ย้ำว่า การลักลอบเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ โดยเฉพาะกับไทยที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ แต่ที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้มีความเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่องในการปราบปรามทั้งสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าลักลอบนำเข้า-ส่งออกที่ผิดกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง