MGR online - ดีเอสไอ ทลายแหล่งซุกซ่อนสินค้าแบรนด์เนมปลอมหลายยี่ห้อ ที่สระบุรี มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าวกรมสอบสวนคดีพเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา และ ตัวแทนผู้เสียหายจาก บริษัท สัตยะพล แอนด์พาร์ทเนอร์ส จำกัด ร่วมแถลงผลการบุกจับแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทแว่นตา หมวด เข็มขัด ปลอมแบรนด์เนมยี่ห้อดังหลายยี่ห้อ ซึ่งละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ใน จ.สระบุรี รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท
พ.ต.ท.นิรุติ กล่าวว่า กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ดำเนินการสืบสวนพร้อมประสานกับผู้เสียหายร่วมกันประมาณ 1 ปี จนทราบว่ามีขบวนการนำเข้ามาในราชอาณาจักร และจำหน่ายสินค้าประเภทแว่นตา หมวก และสินค้าอื่นๆ ที่ละะเมิดเครื่องหมายการค้า ทั้งปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และสินค้าที่ไม่มีเอกสารการเสียภาษีการนำเข้าของสินค้า โดยจะมีการนำสินค้าดังกล่าวมาจากต่างประเทศโดยเข้ามาทางเรือขนส่งสินค้าและพยายามหลบเลี่ยงผ่านศุลกากร จากนั้นก็จะนำสินค้ามาเก็บซุกซ่อน พักไว้ที่อาคารพาณิชย์ จำนวน 2 จุด พื้นที่จ.สระบุรี ซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
"กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.62 เจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ได้ขออนุมัติหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ภายในจ.สระบุรี จำนวน 2 จุด คือ 1.อาคารพาณิชย์ 5 คูหา 4 ชั้น ถนนเทศบาล 1 อ.เมือง จ.สระบุรี และ 2.อาคารพาณิชย์ 5 คูหา 4 ชั้น ถนนเทศบาล 3 อ.เมือง จ.สระบุรี ทั้งนี้ ได้มีตัวแทนจากผู้เสียหายเข้าร่วมปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อชี้ยืนยันเครื่องหมายสินค้าด้วย"
พ.ต.ท.นิรุติ กล่าวอีกว่า ผลการตรวจค้นทั้ง 2 จุด พบของกลางเป็นสินค้าประเภทแว่นสายตา แว่นแฟชั่น หมวก หัวเข็มขัด ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวนประมาณ 18,000 ชิ้น และแว่นตาที่ไม่มีเอกสารการเสียภาษีนำเข้า จำนวน 140,000 ชิ้น รวมสินค้าทั้งหมด 158,000 ชิ้น มีมูลค่าของกลางประมาณ 50 ล้านบาท และการกระทำความผิดในคดีนี้ เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยว่า ได้มอบหมาย กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ทำการสืบสวนปราบปรามกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามอำนาจหน้าที่ ด้วยเหตุที่ว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง จึงเร่งดำเนินการปราบปรามสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่าได้ทำเป็นขบวนการมีชาวจีนเป็นผู้นำเข้าและกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ มีเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาทซึ่งจะเอาผิดตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน เพิ่มเติม
พ.ต.อ.ไพสิฐ เผยอีกว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ที่มีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป