xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”เผยการค้าชายแดน-ผ่านแดน 11 เดือนทะลุ 1.23 ล้านล้าน ลด 2.97%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 11 เดือนปี 62 มูลค่าทะลุ 1.23 ล้านล้านบาท ลดลง 2.97% เหตุได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และเงินบาทแข็งค่า ระบุมาเลเซียครองแชมป์คู้ค้าชายแดน จีนตอนใต้แชมป์การค้าผ่านแดน รับภาพรวมปีนี้ อาจทำได้แค่เสมอตัวเท่ากับปีที่แล้ว ส่วนปี 63 เตรียมชงบอร์ดค้าชายแดน เคาะเป้าใหม่ ให้สอดคล้องสถานการณ์

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 1,231,862 ล้านบาท ลดลง 2.97% เป็นการส่งออก 687,404 ล้านบาท ลดลง 2.62% และนำเข้า 544,459 ล้านบาท ลดลง 3.42% เกินดุลการค้า 142,945 ล้านบาท โดยแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 985,114 ล้านบาท ลดลง 4.03% เป็นการส่งออก 560,078 ล้านบาท ลดลง 5.46% นำเข้า 425,036 ล้านบาท ลดลง 2.07% เกินดุลการค้า 135,042 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 246,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.47% เป็นการส่งออก 127,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.22% นำเข้า 119,422 ล้านบาท ลดลง 7.93% เกินดุลการค้า 7,903 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในด้านการค้าชายแดน มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่า 476,153 ล้านบาท ลดลง 8.76% เป็นการส่งออก 231,743 ล้านบาท ลดลง 13.06% นำเข้า 244,409 ล้านบาท ลดลง 4.26% รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 181,808 ล้านบาท เป็นการส่งออก 107,651 ล้านบาท ลดลง 9.08% นำเข้า 74,157 ล้านบาท ลดลง 4.17% เมียนมา มูลค่า 180,737 ล้านบาท เป็นการส่งออก 93,778 ล้านบาท ลดลง 2.88% นำเข้า 86,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.32% และกัมพูชา มูลค่า 146,416 ล้านบาท เป็นการส่งออก 126,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.43% นำเข้า 19,511 ล้านบาท ลดลง 7.33%

ขณะที่การค้าผ่านแดน จีนตอนใต้นำมาเป็นอันดับหนึ่ง มีมูลค่า 118,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.31% เป็นการส่งออก 49,708 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.19% นำเข้า 68,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.64% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 67,665 ล้านบาท เป็นการส่งออก 28,494 ล้านบาท ลดลง 6.74% นำเข้า 39,171 ล้านบาท ลดลง 15.57% และเวียดนาม มูลค่า 60,501 ล้านบาท เป็นการส่งออก 49,124 ล้านบาท ลดลง 5.99% นำเข้า 11,377 ล้านบาท ลดลง 41.13%

“การค้าชายแดนและผ่านแดนที่ลดลง สอดคล้องกับตัวเลขการส่งออกภาพรวมที่ลดลง 2.77% เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ผลกระทบจากสงครามการค้า การแข็งค่าของเงินบาท และยังมีความไม่มีเสถียรภาพของค่าเงินของประเทศคู่ค้า ทำให้กระทบต่อการค้าขาย แต่ที่น่าจับตา ก็คือ แม้หลายประเทศจะส่งออกได้ลดลง แต่กัมพูชา มีการขยายตัวต่อเนื่องมาโดยตลอด จากการที่เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตสูง จึงน่าที่จะผลักดันได้อีก และจีนตอนใต้ ที่โตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกผลไม้สด เครื่องคอมพิวเตอร์ และลำไยแห้งเป็นหลัก”นายกีรติกล่าว

นายกีรติกล่าวว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนที่เหลือเดือนธ.ค.2562 คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท ทำให้ตัวเลขทั้งปีน่าจะใกล้เคียง 1.4 ล้านล้านบาท หากเทียบปี 2561 ก็จะเสมอตัว หรือลดลงเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ลดลงแน่นอน ซึ่งถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนปี 2563 เบื้องต้นมีเป้าที่ตั้งไว้ระยะยาว 5 ปี (เริ่มปี 2560-65) มาก่อนหน้านี้ คือ 1.8 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นปีละ 15% ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน พิจารณาเป้าหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงต่อไป

สำหรับมาตรการผลักดันการค้าชายแดนปี 2563 กรมฯ จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน เช่น การจัดมหกรรมการค้าชายแดน และแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปยังจังหวัดเล็กๆ ที่ติดชายแดนมากขึ้น เช่น แพร่ อุตรดิตถ์ ประจวบคีรีขันธ์ และระนอง เป็นต้น การให้ความรู้ผู้ประกอบการในการทำการค้าชายแดน การส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า การใช้โครงการ YEN-D สร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า ซึ่งกำลังจะปรับปรุงรูปแบบให้ดีขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น