“สุริยะ” มึนตึ้บหลัง “จิราพร ลิ้มปานานนท์” อ้างรับไม่ได้มติบอร์ดวัตถุอันตรายเมื่อ 27 พ.ย.ทั้งที่ร่วมกันร่างแนวทางจนได้ข้อยุติทุกฝ่ายโดยไม่มีใครคัดค้าน แต่พอออกจากที่ประชุมกลับบอกไม่รับรู้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 62 ซึ่งตนทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลจากตัวแทนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาเสนอในที่ประชุมอย่างรอบด้านและให้นำเสนอข้อมูลอย่างเต็มที่โดยไม่ได้ปิดกั้นใดๆ โดยได้ช่วยกันร่างข้อมูลและให้คณะกรรมการทุกท่านช่วยด้วย โดยมีเลขานุการเป็นคนพิมพ์มติฯ ในห้องประชุมจนได้เป็นข้อยุติออกมาซึ่งไม่มีใครคัดค้านแต่อย่างใด
“ทุกคนสามารถแสดงความเห็นและร่วมกันร่างจนได้ออกมาซึ่งมติที่คณะกรรมการเห็นว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ และไม่มีใครคัดค้าน ดังนั้นจะบอกว่าไม่เห็นด้วยหลังจากประชุมไม่ได้ ซึ่งผมเองยังแปลกใจเลยว่าหลังจากผมให้ที่ประชุมช่วยกันเสนอมติฯ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย คุณจิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม และเป็นกรรมการวัตถุอันตราย เองยังเป็นคนเดินไปให้ฝ่ายเลขาฯ แก้ไขข้อมูล และผมได้ถามย้ำหลายครั้งแล้วว่ามีใครคัดค้านไหม ในห้องไม่มีใครคัดค้าน มีเพียงกรรมการ 3 ท่านที่ขอตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ขยายเวลาการแบนฯ ออกไป เพื่อให้กรมวิชาการเกษตรฯ นำข้อมูลเรื่องมาตรการรองรับให้รอบด้านและครบถ้วนกว่านี้ ผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อออกนอกห้องประชุมทำไมจึงเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น” นายสุริยะกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม และเป็นกรรมการวัตถุอันตราย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว จิราพร ลิ้มปานานนท์ ว่า ขอลาออกจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย และขอแย้งการแถลงข่าวของท่านประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม) โดยระบุว่า
1. ขอแย้งว่าไม่ได้มีการลงมติอย่างชัดเจน ว่าผู้ใดเห็นด้วยหรือไม่ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอมในการรับมติ จึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นมติเอกฉันท์ เพราะหากพิจารณาในการอภิปรายจะพบว่าดิฉันยืนยันชัดเจนมาโดยตลอดในการแบนสารทั้งสาม และยืนยันให้คงมติวันที่ 22 ต.ค.
2. ขอแย้งการแถลงข่าวที่ว่า ไกลโฟเซตไม่เป็นอันตราย เพราะกรรมการรวมทั้งดิฉันได้อภิปรายถึงผลเสียต่อสุขภาพและไม่สามารถจะจัดการความเสี่ยงต่อผู้บริโภค จนพบปนเปื้อนทั้งในสิ่งแวดล้อม ผัก ผลไม้ และน้ำนมแม่