xs
xsm
sm
md
lg

แฉไร้ลงมติ3สาร “เฉลิมชัย”โบ้ย"ปลัด กษ."ชง ภท.สับกรมวิชาการฯเละ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลื่อนแบน 3 สารพิษโบ้ยกันวุ่น “อ.จิราพร” ไขก๊อก กก.วัตถุอันตราย พร้อมแฉกระบวนการพิจารณาไร้ลงมติใหม่ “ปลัด สธ.” ระบุผู้แทน สธ.ยันจุดยืนต้องแบน “สุริยะ” สวนในที่ประชุมไร้คนค้าน “เฉลิมชัย” โบ้ย "ปลัดเกษตรฯ" เสนอเลื่อนแบน ด้าน “ประยุทธ์” ลอยตัวปล่อยเป็นเรื่อง คกก. "อนุทิน" จ่อคืนกรมวิชาการเกษตร ให้ รมว.เกษตรฯดูแลเอง ยันไม่เปลี่ยน รมต. “ไบโอไทย” สับ 2 รมต. “พลังประชารัฐ - ประชาธิปัตย์” ตัวการล้มมวย

จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 พลิกมติการแบน 3 สารเคมีกำจัดวัชพืช โดยให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตราย พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 เลื่อนระยะเวลาใช้บังคับไปอีก 6 เดือนหรือตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 ขณะที่ ไกลโฟเซต ยกเลิกการแบนและให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61 ไปแล้วนั้น

“หมอจิราพร” โวยอ้างมติเอกฉันท์

วานนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงกลางดึกของวันที่ 27 พ.ย. ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม หนึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ประกาศลาออกจากคณะกรรมการฯผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่าขอแย้งการแถลงข่าวของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า ในการประชุมไม่ได้มีการลงมติอย่างชัดเจนว่าผู้ใดเห็นด้วยหรือไม่ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอมในการรับมติ จึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นมติเอกฉันท์ได้ โดยตนยืนยันชัดเจนมาโดยตลอดในการแบนสารทั้ง 3 และยืนยันให้คงมติ วันที่ 22 ต.ค.62 ส่วนการแถลงข่าวที่ว่า ไกลโฟเสต ไม่เป็นอันตรายนั้น เพราะกรรมการฯ รวมทั้งตนได้อภิปรายถึงผลเสียต่อสุขภาพ และไม่สามารถจะจัดการความเสี่ยงต่อผู้บริโภค จนพบปนเปื้อนทั้งในสิ่งแวดล้อม ผัก ผลไม้ และน้ำนมแม่

“มีการตั้งคำถามว่า มติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในการยกเลิกกการแบน 3 สารพิษ ส่อจะมีการกระทำเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการยกเลิกมติเดิม และไม่มีการลงมติในการประชุม เป็นเพียงแค่การประชุมรวมๆ เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ตามที่แถลงข่าวออกมา” ภญ.จิราพร ระบุ

สธ.ยันจุดยืนต้องแบน 3 สารพิษ

ด้าน น.พ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ น.พ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ร่วมกันแถลงจุดยืนกระทรวงสาธารณสุขต่อการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร ว่า คณะกรรมการฯ ที่เป็นผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันในที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 ยืนยันตามมติเดิมในการประชุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 ที่ให้แบนสารเคมีอันตราย 3 สาร และได้ให้ข้อมูลถึงผลกระทบต่อสุขภาพทั้งเกษตรกรและประชาชน ที่พบผู้ป่วยจากสารเคมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

“จุดยืนของกระทรวงสาธารณสุขไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผู้แทนกระทรวงฯได้ยืนยันต่อที่ประชุมหลายครั้งว่า ยังคงยืนตามมติเดิมแบน 3 สาร และขอให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน” น.พ.สุขุม กล่าว

“สุริยะ”อ้างที่ประชุมไร้คนคัดค้าน

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ตนทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลจากตัวแทนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาเสนอในที่ประชุมอย่างรอบด้าน และให้นำเสนอข้อมูลอย่างเต็มที่โดยไม่ได้ปิดกั้นใดๆ และให้คณะกรรมการทุกท่านช่วยร่างข้อมูลในห้องประชุมจนได้เป็นข้อยุติออกมา ซึ่งไม่มีใครคัดค้านแต่อย่างใด ดังนั้นจะบอกว่าไม่เห็นด้วยหลังจากประชุมคงไม่ได้

“ผมเองยังแปลกใจเลยว่าหลังจากผมให้ที่ประชุมช่วยกันเสนอมติฯ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย คุณจิราพร (ลิ้มปานานนท์) ยังเป็นคนเดินไปให้ฝ่ายเลขาฯ แก้ไขข้อมูล และผมได้ถามย้ำหลายครั้งแล้วว่ามีใครคัดค้านไหม ในห้องไม่มีใครคัดค้าน ไม่รู้ว่าเมื่อออกนอกห้องประชุมทำไมจึงเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น" นายสุริยะกล่าว

“เฉลิมชัย" โบ้ย "ปลัดเกษตรฯ"ชง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงเกษตรฯจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ให้เป็นมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่าอย่างไร ตนพร้อมปฏิบัติตามนั้น นอกจากนี้กรณี นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯไปเสนอขยายเวลาแบนสารออกไป หรืออย่างไร เป็นสิทธิของปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตนไม่ก้าวก่าย ไม่เคยสั่งการ และไม่มีหนังสืออะไรทั้งสิ้นออกจากไปรมว.เกษตรฯ

“ไม่ได้คุยเรื่องขยายเวลาแบนสารเคมีกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งการตัดสินใจอย่างไร ผมไม่ไปก้าวก่าย ทุกอย่างเป็นเรื่องคณะกรรมการวัตถุอันตราย ผมขอยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการ ไม่มีหนังสือใดๆทั้งสิ้น ถ้าใครมีให้เอาออกมา”นายเฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่าปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตัดสินใจขอยื่นขยายเวลาเลื่อนการแบนสารออก ไปได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องหารือกับรมว.เกษตรฯก่อนหรือ นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงดังว่า “ปลัดเกษตรฯจะตัดสินใจได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการฯ การตัดสินใจได้ต้องคณะกรรมการทั้งหมด ใครคนหนึ่ง จะไปชี้นำคณะกรรมการฯไม่ได้ เราเสนอในฐานะเป็นกรรมการคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องมีหนังสือจากกระทรวงฯยืดเวลา ผมเคยทำหนังสือแม้ฉบับเดียว กลับโดนโจมตี ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง”นายเฉลิมชัย กล่าว

"อนุทิน" ระบุไม่เกี่ยวการเมือง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการได้รับรายงานจาก 2 คณะกรรมการ ที่เป็นตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข คือ เลขาธิการ อย. และอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มารายงานให้ตนทราบว่า ยังไม่มีการลงมติใดๆ อีกทั้งมติเดิมก็ยังมีการรับรอง ต้องไปถามนายสุริยะ ซึ่งตนก็จะรอฟัง อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามติที่ประชุมออกมาอย่างไร เราก็เคารพ

เมื่อถามว่าตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมาได้พบและพูดคุยกับนายสุริยะ แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ได้เจอกันนิดนึงที่สภา ก็ไม่มีอะไร เรื่องนี้อย่าเอาไปผูกกับการเมืองเป็นอันขาด คนละเรื่องกัน”

คืนกรมวิชาการเกษตรให้ รมว.

ส่วนกรณีที่ กรมวิชาการเกษตร มีหนังสือตรงถึงที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายโดยที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ทราบเรื่อง ถือว่าข้ามขั้นตอนหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก็เขาก็ข้ามขั้นตอนอย่างนี้มาตลอดอยู่แล้ว เป็นอันชัดเจนว่า เขาไม่ฟังคำสั่ง รมช.มนัญญา ดังนั้นผมก็ต้องไปพูดคุยกันในพรรคภูมิใจไทยก่อน”

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องคืนกรมวิชาการเกษตรไปให้ รมว.เกษตรฯดูแลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ในเมื่อควบคุมกันไม่ได้ ในเมื่อเราพยายามทำในเรื่องนี้แล้วเขาไม่ตอบสนอง ผมเป็นหัวหน้ามนัญญา ผมก็ต้องบอกว่าจะทู่ซี้คุมไปทำไม คุมแล้วก็คุมไม่ได้ แล้วทะเลาะกัน ก็ต้องเสนอไปถึงผู้บังคับบัญชาของ รมช.มนัญญา ก็คือนายเฉลิมชัย (ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ) ถ้าจะคืนก็ต้องทำหนังสือขอคืนด้วยเหตุผลอะไรบ้าง ก็ต้องเขียนลงไป เช่น ควบคุมไม่ได้ ไม่ปฏิบัติตามนโยบายอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ต้องขอคืน จากนั้นก็ต้องให้ รมว.เฉลิมชัยพิจารณาว่าจะให้ดูต่อหรือจะเปลี่ยนกรม ในเมื่อรัฐมนตรีเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนกรม”

นายกฯไม่ขัดข้องขยายเวลาแบน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ขัดข้องในเรื่องเหล่านี้ ส่วนเรื่องของการยกเลิก ก็ไม่ได้ขัดแย้ง เพราะมองในแง่สุขภาพประชาชนและผู้บริโภค ทั้งนี้ ต้องมาดูรายละเอียดอีกที เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น แต่ต้องหาวิธีการ และมาตรการที่เหมาะสม ซึ่งจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ก็ว่ากันมา ตนไม่สามารถไปสั่งได้ ตรงนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ที่ทำงานมา และกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการดำเนินการให้ได้ เพื่อลดความขัดแย้ง ลดปัญหาจากภาคเกษตรด้วย คงไม่ขัดแย้งในเรื่องนี้

แฉขบวนการล้มแบนไกลโฟเซต

แฟนเพจ BIOTHAI ซึ่งเป็นองค์กรต่อต้านการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ “36 วัน ล้มแบนไกลโฟเซต” ระบุว่า เรื่องนี้ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย หลายประเทศเคยแบนพาราควอตแล้วถูกบริษัทสารเคมีข้ามชาติผนึกกำลังกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศล้มการแบนไป การล้มการแบนในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นจากการผนึกกำลังของ 4 พลังสำคัญ คือ 1. รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยค้านการแบนไกลโฟเซต, 2. กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยักษ์ใหญ่ของไทย ที่แถลงประสานเสียงรับลูกกับรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่า การแบนไกลโฟเซตจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมอาหารทั้งระบบ, 3. เครือข่ายของบริษัทสารพิษกำจัดศัตรูพืชภายใต้การนำของ CropLife ซึ่งมีสาขาประเทศไทยใช้ชื่อว่าสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ 4. 2 พรรคการเมืองหลักที่เป็นแกนนำรัฐบาล

“ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันที่ 2 รัฐมนตรีจากพลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ คือคีย์แมนสำคัญในการล้มการแบนครั้งนี้ เพราะนายสุริยะ คือคนในรัฐบาลคนแรกที่เอ่ยปากขอให้มีการทบทวนการแบนไกลโฟเซต และนายเฉลิมชัย ซึ่งพบหลักฐานในหนังสือที่ลงนามเสนอแนะให้กระทรวงเกษตรฯดำเนินการตามมติกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จำกัดการใช้ แทนที่จะเสนอแบน 3 สารพิษ” เพจ BIOTHAI ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น