คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ยืนยันบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 32 (TAS 32) วันที่ 1 ม.ค.63 เหมือนเดิม แต่ผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond สามารถแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของทุนได้ต่อไป ไม่เกิน 3 ปี พร้อมย้ำต้องเร่งบริหารจัดการหุ้นดังกล่าวให้ตรงตามมาตรฐานการบัญชีโดยเร็ว
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกบ. ได้มีมติผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) ที่มีการเสนอขายและได้รับชำระค่าหุ้นกู้นั้นก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2562 แสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของทุนต่อไปได้อีกไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1 ม.ค.2563 หลังจากที่มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 32 (TAS 32) เรื่องการแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน ได้กำหนดกรณีที่กิจการมีการออกหุ้นกู้ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือการเงินชนิดหนึ่ง ผู้ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน ต้องแสดงเป็นหนี้สินหรือทุน ขึ้นอยู่กับภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายชำระในอนาคต เช่น แสดงเป็นหนี้สิน หากเป็นหุ้นกู้ที่กิจการต้องจ่ายชำระคืนเงินต้นหรือดอกเบี้ยก่อนการชำระบัญชีหรือก่อนเลิกกิจการ และแสดงเป็นทุน หากเป็นหุ้นกู้ที่กิจการชำระคืนเมื่อเลิกกิจการ
ในปัจจุบันมีบริษัทออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน ซึ่งมีข้อกำหนดที่อาจจะตีความได้ว่าผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิได้รับชำระคืนก่อนการชำระบัญชีหรือได้รับชำระคืนก่อนเลิกกิจการ โดยมาตรฐานการบัญชีปัจจุบัน บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ดังกล่าวสามารถแสดงรายการในงบการเงินเป็นทุนได้ แต่เมื่อ TAS 32 มีผลบังคับใช้ บริษัทต้องจัดประเภทรายการใหม่เป็นหนี้สินในงบการเงินทันที เนื่องจากไม่เข้าลักษณะการแสดงรายการเป็นทุนตาม TAS 32 อีกต่อไป ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ทันที คือ ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพิ่มสูงขึ้น ผู้ออกหุ้นกู้อาจผิดเงื่อนไขทางการเงิน (Financial Covenant) จนอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ส่งผลให้การระดมทุนทำได้ยากขึ้น และอาจประสบปัญหากระแสเงินสดในอนาคต จึงต้องมีการผ่อนผันดังกล่าว
“กกบ.เล็งเห็นถึงผลกระทบ จึงมีมติให้ออกแนวทางปฏิบัติสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านมาตรฐานการบัญชี โดยผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน ที่มีการเสนอขายและได้รับชำระค่าหุ้นกู้ก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2562 อาจเลือกแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของทุนต่อไปอีกได้ แต่ไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1 ม.ค.2563 เพื่อให้บริษัทผู้ออกหุ้นกู้มีเวลาเพียงพอสำหรับการบริหารจัดการที่จำเป็น เช่น การเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ การไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดและออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทน เป็นต้น โดยบริษัทที่เลือกแสดงรายการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทุน ต้องเปิดเผยเหตุผลที่เลือกแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของทุน และผลกระทบต่อทุกรายการในงบการเงิน หากต้องแสดงรายการดังกล่าวเป็นหนี้สินในหมายเหตุประกอบงบการเงิน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (TAS 32) เรื่อง การแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน ยังคงบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิม คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป เพราะมาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ จะให้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการแสดงรายการในงบการเงินของกลุ่มเครื่องมือทางการเงินทั้งหมด
ทั้งนี้ กกบ. คาดหวังว่ามาตรฐานการรายงานทางการเงินของไทยจะใช้เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ หรือ IFRS : International Financial Reporting Standards ที่ใช้ในการจัดทำงบการเงินเป็นมาตรฐานเดียวกันกับอีก 140 ประเทศทั่วโลก เป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดทำรายงานทางการเงินของไทยและส่งเสริมให้รายงานทางการเงินของไทยมีความน่าเชื่อถือ โปร่งใสในสายตาของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ เศรษฐกิจของประเทศเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รองรับการเปิดการค้าเสรีของโลก