วานนี้ (27พ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีที่ดิน น.ส.3 ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 2 แปลง ที่ยื่นต่อป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 พบว่า ที่ดินทั้ง 2 แปลง ตั้งอยู่ที่เดียวกัน มีสารบบเลขที่ติดต่อกัน เนื้อที่ก็เท่ากัน คือแปลงละ 50ไร่ แต่กลับมีการแสดงราคาต่อป.ป.ช. แตกต่างกัน คือแปลงเลขที่ 97 แสดงราคา 100,000,000 บาท และแปลงเลขที่ 98 แสดงราคา 10,000,000 บาท จึงมีเหตุให้ควรสงสัยว่า ทำไมการแสดงราคาจึงแตกต่างกันถึง 90,000,000 บาท
นอกจากนี้ การยื่นบัญชีที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นของคู่สมรสของนายสิระ นั้นเป็นไปโดยถูกต้องครบถ้วนตามความในพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปี 2561 มาตรา 114 ประกอบ มาตรา 105 และ มาตรา 110 หรือไม่ จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียบนต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
ด้านนายสิระ กล่าวถึงเรื่องราคาของที่ดิน ทั้งสองแปลงที่ต่างกันมากว่า ในครั้งแรกตนได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่มีการแสดงราคาผิด เมื่อตนตรวจสอบแล้ว ได้ให้ทนายความไปแก้ไขต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 ก.ย. จำนวน 3 รายการได้แก่
1. เงินสด จากเดิมที่ระบุว่าผู้ยื่นไม่มีเงินสด ขอแก้ไขให้เป็นมีเงินสด 10 ล้านบาท เนื่องจากข้อมูลคลาดเคลื่อน เพราะเงินจำนวนดังกล่าวตนได้รับมาตามบันทึกข้อตกลงการหย่า
2. ที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ อ.มะขาม จ.จันทรบุรี เนื้อที่ 50 ไร่ ผู้มีสิทธิ์ครอบครองคือ นางสรัลรัศมิ์ เตชะจิรสิน คู่สมรส จากเดิม ระบุมูลค่าปัจจุบัน100 ล้านบาท แก้ไขเป็นมูลค่าปัจจุบัน 10 ล้านบาท เนื่องจากพิพม์ผิดพลาด และไม่ได้ตรวจทานโดยถี่ถ้วน
3. ทองคำแท่ง จากเดิมที่ระบุว่าเป็นของ น.ส.วิภาวี คุปติมาลาธร อดีตผู้สมรส จำนวน 415 บาท ขอแก้ไขเป็นของผู้ยื่น 315 บาท และเป็นของอดีตคู่สมรส 100 บาท เนื่องจากกรอกข้อมูลผู้เป็นเจ้าของผิดพลาดคลาดเคลื่อน และไม่ได้ตรวจทานโดยถี่ถ้วน
นายสิระ กล่าวว่า การที่นายเรืองไกร ไปยื่นให้ตรวจสอบตนนั้น ไม่ผิด แต่มีการยื่นให้ตรวจสอบตน 2 เรื่อง คือ กล่าวหาว่าตนมีหุ้นสื่อ ทั้งที่บริษัทได้จดยกเลิกกิจการไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่นายเรืองไกร ก็ยังไปยื่นว่าตนยังมีหุ้นสื่อ และวันนี้ก็จะให้ตรวจสอบว่า ตนได้เปลี่ยนแปลงราคาที่ดิน จึงขอเตือน นายเรืองไกร ว่าอย่าใช้การตรวจสอบในการกลั่นแกล้ง หรือไม่ละเอียดรอบคอบ ถือว่าตนได้รับความเสียหาย 2 เรื่องแล้ว ตนยังไม่จัดการนายเรืองไกร เลย สงสัยครั้งนี้ต้องให้ทนาย จัดการสักครั้ง ท่านบอกเป็นนักตรวจสอบบัญชี แต่ท่านตรวจสอบอย่างไร ที่มากล่าวหาบริษัทของตน ทั้งที่ยกเลิกกิจการไปนานแล้ว และวันนี้ก็มาตรวจสอบเรื่องราคาที่ดินอีก
"อย่ามากลั่นแกล้งกันนะครับ ไม่มีงานทำหรือ ท่านหากินกับเรื่องนี้หรือครับ ไปหากินทางสุจริตก็ได้นะครับ ทำกับผมสองเรื่อง ผมก็มีมือ มีอะไรเหมือนกัน ผมก็มีฝ่ายกฎหมาย นักบัญชีตรวจสอบ ผิดพลาดแบบนี้เข้าข่ายกลั่นแกล้งหรือไม่ ผมไม่ยอมแล้วเที่ยวนี้" นายสิระ กล่าว
นอกจากนี้ การยื่นบัญชีที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นของคู่สมรสของนายสิระ นั้นเป็นไปโดยถูกต้องครบถ้วนตามความในพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปี 2561 มาตรา 114 ประกอบ มาตรา 105 และ มาตรา 110 หรือไม่ จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียบนต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
ด้านนายสิระ กล่าวถึงเรื่องราคาของที่ดิน ทั้งสองแปลงที่ต่างกันมากว่า ในครั้งแรกตนได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่มีการแสดงราคาผิด เมื่อตนตรวจสอบแล้ว ได้ให้ทนายความไปแก้ไขต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 ก.ย. จำนวน 3 รายการได้แก่
1. เงินสด จากเดิมที่ระบุว่าผู้ยื่นไม่มีเงินสด ขอแก้ไขให้เป็นมีเงินสด 10 ล้านบาท เนื่องจากข้อมูลคลาดเคลื่อน เพราะเงินจำนวนดังกล่าวตนได้รับมาตามบันทึกข้อตกลงการหย่า
2. ที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ อ.มะขาม จ.จันทรบุรี เนื้อที่ 50 ไร่ ผู้มีสิทธิ์ครอบครองคือ นางสรัลรัศมิ์ เตชะจิรสิน คู่สมรส จากเดิม ระบุมูลค่าปัจจุบัน100 ล้านบาท แก้ไขเป็นมูลค่าปัจจุบัน 10 ล้านบาท เนื่องจากพิพม์ผิดพลาด และไม่ได้ตรวจทานโดยถี่ถ้วน
3. ทองคำแท่ง จากเดิมที่ระบุว่าเป็นของ น.ส.วิภาวี คุปติมาลาธร อดีตผู้สมรส จำนวน 415 บาท ขอแก้ไขเป็นของผู้ยื่น 315 บาท และเป็นของอดีตคู่สมรส 100 บาท เนื่องจากกรอกข้อมูลผู้เป็นเจ้าของผิดพลาดคลาดเคลื่อน และไม่ได้ตรวจทานโดยถี่ถ้วน
นายสิระ กล่าวว่า การที่นายเรืองไกร ไปยื่นให้ตรวจสอบตนนั้น ไม่ผิด แต่มีการยื่นให้ตรวจสอบตน 2 เรื่อง คือ กล่าวหาว่าตนมีหุ้นสื่อ ทั้งที่บริษัทได้จดยกเลิกกิจการไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่นายเรืองไกร ก็ยังไปยื่นว่าตนยังมีหุ้นสื่อ และวันนี้ก็จะให้ตรวจสอบว่า ตนได้เปลี่ยนแปลงราคาที่ดิน จึงขอเตือน นายเรืองไกร ว่าอย่าใช้การตรวจสอบในการกลั่นแกล้ง หรือไม่ละเอียดรอบคอบ ถือว่าตนได้รับความเสียหาย 2 เรื่องแล้ว ตนยังไม่จัดการนายเรืองไกร เลย สงสัยครั้งนี้ต้องให้ทนาย จัดการสักครั้ง ท่านบอกเป็นนักตรวจสอบบัญชี แต่ท่านตรวจสอบอย่างไร ที่มากล่าวหาบริษัทของตน ทั้งที่ยกเลิกกิจการไปนานแล้ว และวันนี้ก็มาตรวจสอบเรื่องราคาที่ดินอีก
"อย่ามากลั่นแกล้งกันนะครับ ไม่มีงานทำหรือ ท่านหากินกับเรื่องนี้หรือครับ ไปหากินทางสุจริตก็ได้นะครับ ทำกับผมสองเรื่อง ผมก็มีมือ มีอะไรเหมือนกัน ผมก็มีฝ่ายกฎหมาย นักบัญชีตรวจสอบ ผิดพลาดแบบนี้เข้าข่ายกลั่นแกล้งหรือไม่ ผมไม่ยอมแล้วเที่ยวนี้" นายสิระ กล่าว